ระยอง 13 ก.ค.- กนอ.ลงพื้นที่ระยองหลังเกิดเหตุสารเคมีรั่วจากโรงงานอะโรเมติกส์ นิคมฯ อาร์ไอแอล วานนี้ ด้านพีทีที จีซี แจงสาเหตุช่องมองกระจกแตก จนท.ควบคุมไว้ได้ ระบุเป็นสารไซลีนไม่จัดอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็ง พร้อมสั่งตรวจเข้มทุกจุด
นายวิฑูรย์ อยู่ทิม รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) นายวีระศักดิ์ แจ้งการ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมร่วมกลุ่มมาบตาพุดดูแลนิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล อ.เมือง จ.ระยอง และนายพรรคพงษ์ วังรัตนโสภณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงที่ห้องประชุมนิคมอุตสาหกรรมอาร์ไอแอล กรณีสารเคมีรั่วไหลจากโรงงานอะโรเมติกส์ 2 เมื่อวานนี้ (12 ก.ค.) ว่า สาเหตุเกิดจากบริเวณช่องมองกระจกแตกระหว่างการระบายของเหลวจากหอกลั่นไปยังถังพักใต้ดิน ซึ่งเป็นระบบปิดและเป็นกระบวนการตรวจสอบการไหลของเหลวภายในโรงงานอะโรเมติกส์ อย่างไรก็ตาม ทีมระงับเหตุได้เข้าดำเนินการอย่างเร่งด่วนปิดวาล์วท่อส่งสารไซลีน เพื่อหยุดการรั่วไหลและควบคุมไม่ให้สารแพร่กระจายออกนอกโรงงาน โดยใช้น้ำดับเพลิงฉีดเป็นละอองฝอยไม่ให้แพร่กระจายไปในอากาศและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลาต่อมา ส่วนค่าเสียหายอยู่ระหว่างตรวจสอบ เบื้องต้นโรงงานยังเปิดเดินเครื่องตามปกติ แต่สั่งหยุดไซด์งานที่เกิดเหตุไว้ก่อน พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดอื่น ๆ เพื่อความมั่นใจและป้องกันปัญหาเกิดขึ้นอีก
นายพรรคพงษ์ กล่าวว่า สารไซลีนที่รั่วไหลคาดว่าประมาณ 2-3 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสารดังกล่าวตามข้อมูลขององค์กรนักสุขศาสตร์อุตสาหกรรมภาครัฐแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาองค์กรอนามัยโลก และศูนย์รักษาพิษสารเคมีอันตรายภาคตะวันออก โรงพยาบาลระยองระบุว่าเป็นสารอินทรีย์กลุ่มสารอะโรเมติกส์ มีสถานะเป็นของเหลวไม่มีสี น้ำหนักเบากว่าน้ำ ระเหยง่าย หากสูดดมเข้าไปอาจก่อให้เกิดความรำคาญและระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ ไม่จัดอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็ง หลังเกิดเหตุบริษัทได้ทำความสะอาดพื้นกระบวนการผลิต ตรวจสอบอุปกรณ์กระจกช่องมองของไหลและนำมาวิเคราะห์หาสาเหตุที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ทางนิคมอุตสาหกรรมฯ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษลงพื้นที่ตรวจสอบรอบโรงงานโดยผลการตรวจวัดค่าสารอินทรีย์ระเหยง่ายรวม 12 จุดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่ก่อให้เป็นอันตรายแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย