ตร.ญี่ปุ่นรวบชายไทยแทงคนญี่ปุ่น ดับ 1 เจ็บ 2

ญี่ปุ่น 5 พ.ย. – ตำรวจญี่ปุ่นจับกุมชายไทย วัย 53 ปี แทงชาวญี่ปุ่นบาดเจ็บ 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย หลังช่วยเพื่อนถูกรุมทำร้ายบริเวณหน้าร้านอาหารไทยในเมืองโยโกฮามา เผยสาเหตุถูกยากูซ่าญี่ปุ่นหาเรื่องทะเลาะวิวาทและทำร้ายก่อน จึงต้องป้องกันตัว


ภาพจากกล้องวงจรปิดด้านหน้าร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งย่านธุรกิจของเมืองโยโกฮามา จังหวัดคานางาวะ เมื่อค่ำวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เผยให้เห็นเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทที่กลุ่มชาย 3 คน เดินเข้าไปพูดคุยกับชายสวมเสื้อสีส้ม หน้าร้านอาหาร ก่อนจะเกิดการตะลุมบอนชกต่อยกันขึ้น สุดท้ายมีผู้ถูกแทงเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 2 ราย

หลังเกิดเหตุตำรวจสถานีอิเซซากิได้ติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นชายไทย ทราบนายรุ่งโรจน์ วัย 53 ปี พนักงานร้านอาหารไทยดังกล่าว ในฐานะผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม ตามรายงานของตำรวจระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.40 น. ของคืนวันดังกล่าว มีชาวไทย 2 คน มีเรื่องวิวาทกับกลุ่มชาวญี่ปุ่น ต่อมามีการลงมือลงไม้กันบริเวณหน้าร้านอาหารไทย พยานที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าต้นเรื่องมาจากชาวญี่ปุ่นในกลุ่มถีบจักรยานที่จอดอยู่หน้าร้านอาหารไทยหลายคันจนล้มโดยไม่มีสาเหตุ พร้อมทั้งตะโกนด่าในทำนองว่าเกลียดคนไทยและไล่ให้กลับประเทศ


พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า กลุ่มชาวญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าเป็นขาใหญ่ในพื้นที่และมีอาการมึนเมา เป็นฝ่ายเข้ามาหาเรื่องและรุมทำร้ายคนไทยก่อนจนบาดเจ็บ จากนั้นมีคนไทยอีกคนคาดว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ถือมีดเดินออกมาจากร้านอาหาร แล้วแทงชาวญี่ปุ่นที่รุมทำร้ายเพื่อนร่วมชาติหลายครั้ง ทั้ง 3 คน มีบาดแผลถูกมีดแทงช่องท้องและหลัง เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่มีอยู่ 1 คน ที่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้

ขณะเดียวกันมีชาวไทยที่อ้างตัวว่าเป็นคนที่ถูกทำร้ายในเหตุการณ์ โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่ากลุ่มชาวญี่ปุ่นที่รุมทำร้ายพวกเขาเป็นพวกยากูซ่าที่เข้ามาแสดงท่าทีอวดเบ่ง และถีบจักรยานของพวกเขาที่จอดอยู่หน้าร้านอาหารจนล้ม ก่อนหาเรื่องวิวาทและลงมือทำร้ายร่างกายตนก่อน มีลูกค้าในร้านเป็นพยานหลายคน พร้อมโอดครวญว่าพวกเขาเพียงแค่ทำมาหากิน แต่ยังต้องเดือดร้อนเพราะโดนหาเรื่องก่อนแบบนี้

สำหรับคดีในตอนนี้ยังคงอยู่ในระหว่างการสืบสวน ตำรวจจะต้องสอบปากคำผู้ต้องสงสัยและพยานเพิ่มเติม ขณะที่สถานทูตไทย กำลังดำเนินการประสานงาน เพื่อให้ความช่วยเหลือเรื่องคดีตามขั้นตอนต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น