2 พ.ย. – กองปราบฯ เชิญอัยการประชุมหารือเตรียมสรุปสำนวนคดี “กำนันนก” ส่งอัยการสัปดาห์หน้า เผยแบ่งคดีออกเป็น 2 สำนวน คือสำนวนคดีกำนันนก และสำนวนของเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีทั้งตำรวจ-พลเรือน ร่วมกระทำผิด ซึ่งภาพรวมของสำนวนนี้ก็เรียบร้อยดี
ที่ห้องประชุม ชั้น 3 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เชิญนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เเละ ร.ต.อ.อมตะ ชนะพงษ์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน ร่วมประชุมหารือก่อนสรุปสำนวนคดี นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ อดีตกำนันนก ผู้ต้องหาคดีใช้จ้างวานฯ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิตขณะ ร่วมงานเลี้ยงที่บ้านนายประวีณ ในพื้นที่ จ.นครปฐม โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง
นายวัชรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางผู้บังคับการปราบปราม มองว่าคดีกำนันนก เป็นคดีที่มีความสำคัญ จึงได้ทำหนังสือเชิญอัยการมาร่วมเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำในเรื่องแนวทางการรวบรวมพยานหลักฐาน และข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อให้สำนวนมีความรอบคอบรัดกุมเท่านั้น ไม่มีผลต่อสำนวนคดี ซึ่งกองปราบปราม ดำเนินการแบ่งคดีดังกล่าวออกเป็น 2 สำนวน คือสำนวนคดีกำนันนก และสำนวนของเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเรือน ร่วมกระทำผิด ซึ่งภาพรวมของสำนวนนี้ก็เรียบร้อยดี
ด้าน พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ภาพรวมของคดีนี้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% เหลือเพียงเก็บตกบางประเด็นเล็กน้อย และคาดว่าสรุปทั้ง 2 สำนวน พร้อมความเห็นส่งให้อัยการได้ในสัปดาห์หน้า ส่วนพยานหลักฐานที่มีตอนนี้สามารถเอาผิดกำนันนกและพวกทั้งหมดได้แน่นอน แม้ว่ากล้องวงจรปิดตัวที่ 6 ที่เป็นตัวสำคัญที่เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ จะได้มาไม่ครบถ้วน แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานในส่วนอื่นมาประกอบสำนวน ไม่ใช่มีแค่วงจรปิดเพียงอย่างเดียว
ด้าน พ.ต.อ.เอนก อธิบายเพิ่มเติมว่า 2 สำนวนหลัก ที่กองปราบฯ ดำเนินการ สำนวนแรกเป็นคดีแรก มีนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ อดีตกำนันนก เป็นผู้ต้องหาในข้อจ้างวางฆ่า ฯลฯ และนายธนัชชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา ลูกน้อง ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตตนา พยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ฯลฯ โดยจะสรุปสำนวนส่งให้สำนักงานอัยการคดีอาญา ถ.รัชดาฯ ส่วนอีกสำนวนเป็นสำนวนตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ภายในงานเลี้ยงวันเกิดเหตุ 15 นาย โดยในจำนวนนี้รวมถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพญาไท และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม รวมกับพลเรือน อีก 14 คน ในข้อหาให้การสนันสนุนเจ้าหน้าที่ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน โดยจะส่งที่อัยการ สำนักคดีปราบปรามการทุจริต ถ.รัชดาฯ เช่นกัน และคาดทั้ง 2 สำนวน จะส่งได้ในวันเดียวกัน. -สำนักข่าวไทย