“บิ๊กก้อง” แถลงผลการจับกุม “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย”

บช.ก. 11 พ.ย. – “บิ๊กก้อง” แถลงผลการจับกุม “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” พบมีผู้เสียหาย 67 คน มูลค่าความเสียหาย 108 ล้านบาท


หลังจากเมื่อช่วง 04.30 น.ที่ผ่านมา ทางตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้มีการจับกุมตัวนายธนวันต์ หรือหมอดูฮวงจุ้ย ได้บริเวณใกล้บ้านพักย่านเสมาฟ้าครามคลอง 2 จังหวัดปทุมธานี ในข้อหาฉ้อโกง และฟอกเงิน หลังมีกลุ่มผู้เสียหายกว่า 67 คน เดินทางเข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามและสถานีตำรวจทั่วประเทศ ความเสียหายสูงถึง 108 ล้านบาท

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ก่อนหน้านี้ที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา เมื่อได้รับแจ้งความแล้วทางตำรวจได้มีการตั้งคณะทำงานและมีการสอบปากคำผู้เสียหายถึง 67 ปาก ความเสียหายสูงถึง 108 ล้านบาท ผู้เสียหายให้การว่า หมอดูคนดังกล่าวได้เปิดบริษัทดูฮวงจุ้ย มีการให้สั่งซื้อของทำพิธีต่างๆ และไม่ได้รับของตามที่สั่ง ส่วนมากของที่สั่งจะเป็นกิเลน-สิงห์คู่ และอื่นๆ ผู้เสียหายมีการจ่ายเงินจำนวนมากถึง 65 ล้านบาท มีการโอนไปให้หมอดูฮวงจุ้ยคนนี้กว่า 70 ครั้ง เสียหายตั้งแต่ปี 63 ยังไม่ได้ของ แต่มีพฤติกรรมแบบนี้ต่อมาเรื่อย ๆ จึงเป็นเหตุให้ทางตำรวจออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา และได้มีการติดตามตัว จนกระทั่งได้เข้าจับกุมตัวเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ และได้นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ


เบื้องต้นหมอดูคนดังกล่าวได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาและต้องมีการสืบสวนสอบสวนกันต่อ และเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

ก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่าหมอดูคนดังกล่าวได้มีการหลบหนีไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน ตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและรวบรวมพยานฐาน ถ้ามีการยืนยันว่ามีการหนีออกนอกประเทศจริงจะมีการดำเนินคดีในข้อหาเข้า-ออกราชการอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย และการเดินทางไปที่ชายแดนพบว่ามีคนพาไป ต้องดูตามเจตนาและพฤติการณ์ และต้องมีการสอบปากคำด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าตัวหมอดูฮวงจุ้ยมีรถ 2 คัน ได้ทำการยึดไว้แล้ว คือโตโยต้า อัลฟาร์ด และ ลัมโบร์กีนี พบว่า รถลัมโบร์กีนี ได้มีการเช่าในราคาเดือนละ 1 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นโปรไฟล์

ทั้งนี้ ในความผิดฐานอื่นๆ ต้องรอให้ทางผู้เสียหายมาให้ปากคำให้ครบก่อนว่าเสียหายส่วนไหนเพิ่มเติมหรือไม่ และจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว. -420-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”