ผบ.ตร.สั่งสอบ “บอสตำรวจ” ขึ้นเวทีดิไอคอน

กทม. 24 ต.ค.-ผบ.ตร.สั่งสอบ “บอสตำรวจ” ดิไอคอนกรุ๊ป ทั้งอาญาและวินัย เรียกเข้าพบกองปราบฯ วันนี้ ต้องรู้ผลวินัยภายใน 2 วัน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิปนายตำรวจยศ พันตำรวจเอก ขึ้นเวทีของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด โดยมีลักษณะพูดชักชวนการร่วมลงทุน โน้มน้าวประชาชนที่มาเข้าฟัง และวิพากษ์วิจารณ์ สวัสดิการของข้าราชการตำรวจที่ไม่ดีทำให้ต้องเลือกทำธุรกิจดิไอคอนกรุ๊ป


ผบ.ตร. ระบุว่า ตนเองได้สั่งการไปตั้งแต่ช่วงเช้าผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าเรื่องดังกล่าวต้องแยกเป็น 2 ประเด็น ประเด็นที่ 1 คือ ตรวจสอบนายตำรวจที่ออกมาทำลักษณะเป็นโค้ชพูดชักชวนเช่นนี้ให้เรียกมาสอบปากคำภายในวันนี้ ให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เป็นผู้พิจารณาว่ามีพฤติกรรมรายละเอียดเป็นอย่างไร ตนเองได้ให้หลักการว่าจะไม่มีการช่วยเหลือในฐานะตำรวจ หากพบพฤติกรรมใดๆ ที่เข้าข่ายลักษณะความผิดทั้งการฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ในส่วนที่ 2 ที่ต้องตรวจสอบคือการที่แต่งเครื่องแบบตำรวจไปทำพฤติการณ์เช่นนั้น สามารถทำได้หรือไม่ และใช้เวลาราชการไปทำหรือไม่ ในการตรวจสอบส่วนนี้ได้สั่งจเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบความผิดทางวินัย โดยต้องจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษร กลับมารายงานตนเอง ภายในระยะเวลา 2 วัน นับตั้งแต่วันนี้


การที่พันตำรวจเอก วิพากษ์วิจารณ์เรื่องเงินเดือน ค่าตอบแทนของตำรวจถือเป็นความคิดเห็นส่วนตัว แต่สิ่งสำคัญคือการที่คุณเป็นข้าราชการตำรวจต้องรู้ว่าสิ่งใดควรแสดงออกหรือไม่อย่างไร

ความเห็นบางอย่างจากผู้ใต้บังคับบัญชาบางครั้งเป็นสิ่งที่ดีตนจะได้รู้ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรจะปรับปรุงพัฒนาการทำงานตำรวจในรูปแบบอย่างไร ส่วนหนึ่งเราก็ต้องฟังเขา แต่การที่เอาเวลาราชการไปทำลักษณะแบบนี้ถ้าไม่ใช่การเบียดบังเวลาราชการเป็นเวลาส่วนตัวก็ไม่ว่ากัน แต่การสวมใส่เครื่องแบบไปทำเช่นนั้นจะถูกต้องหรือ ต้องตรวจสอบอย่างจริงจัง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวสนับสนุนตำรวจที่ทำมาหากินโดยสุจริตพร้อมสนับสนุน แต่นั่นหมายความว่าต้องทำอย่างถูกต้องตามกฎหมายสุจริตชน ไม่เบียดเบียนเวลาราชการ และต้องไม่หลอกลวงคนอื่น ซึ่งจากนี้เป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริง จากคลิปดังกล่าวยอมรับว่า พันตำรวจเอกรายนี้มีลักษณะพูดโน้มน้าวชักชวนจริง ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเข้าข่ายหลอกลวงให้ประชาชนร่วมทำสิ่งใดอย่างใดอย่างหนึ่งและทำให้เสียทรัพย์สิน แน่นอนว่าจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางวินัยและทางอาญา


ตนเองยืนยันว่าดีเอสไอ ยังไม่มีความพยายามจะแย่งคดีอะไร กับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับการทำงานของทั้ง 2 หน่วยได้มีการประสานงาน กันอย่างตลอดเวลา สิ่งใดที่เป็นหน้างานของกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ในอำนาจหน้าที่ก็ดำเนินการไปส่วนตำรวจก็ทำในส่วนกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น อีกทั้งยังไม่มีรายงานว่ามีใครพยายามจะนำคดีออกไป จากการทำงานของตำรวจ ส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษโดยเฉพาะ ตนมั่นใจว่าสิ่งที่ตำรวจกำลังทำอยู่เป็นไปตามพยานหลักฐาน

หากถามว่าวันนี้พอใจกับการทำงานของตำรวจหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ มองว่า ตำรวจทำตามหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ส่วนที่ประชาชนสะท้อนในด้านดีก็ถือว่าเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงาน แต่ตลอดเวลา ตนเองจะกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาว่าขอให้ทำอย่างรวดเร็วถูกต้องรอบคอบรัดกุมไม่ใช่ทำเพื่อเอาใจใครจนเกิดความเสียหาย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวถึงกรณีที่ทนายความของผู้ต้องหาจะทำการแจ้งความกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการตรวจค้น 11 จุดเป้าหมายว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุในเรื่องนี้ในส่วนของผู้ต้องหาหรือทนายความสามารถทำได้ตามสิทธิ์ แต่ยืนยันว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างถูกต้องและครอบคลุมที่สุดแล้ว.-414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ นำ ครม.ทำบุญตักบาตรเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค.67

นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 189 รูป ที่ท้องสนามหลวง ก่อนวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567

เปิดให้สักการะ “พระเขี้ยวแก้ว” วันแรก

ริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว ถึงยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ว พร้อมเชิญชวนประชาชนสักการะ วันนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก ตั้งแต่ 07.00 น.เป็นต้นไป

ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

วธ.เผย ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567