นนทบุรี 2 พ.ย. – กระทรวงพาณิชย์ สั่งพาณิชย์จังหวัดคุมเข้มการจำหน่ายน้ำตาลทรายให้เป็นไปตามประกาศการกำหนดราคา หลังกระทรวงพาณิชย์ ดึงสินค้าน้ำตาลทรายเป็นสินค้าควบคุม ส่วนมาตรการดูแลชาวไร่อ้อยให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้พิจารณาออกมาตรการมารองรับ
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้เรียกประชุมพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ สั่งการให้ลงพื้นที่ตรวจสอบโดยเฉพาะไม่ให้เกิดการกักตุน รวมทั้งประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งกรมศุลกากร การท่าเรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ให้เข้ามาช่วยกันตรวจสอบ โดยเฉพาะในตลาดกลาง ตลาดสด ด้วย โดยต้องกำกับดูแลการจำหน่ายราคาสินค้าให้เป็นไปตามประกาศ ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบและได้รับรายงานการจำหน่ายน้ำตาลทราย ขณะนี้ยังมีปริมาณสินค้า และราคายังปกติ รวมทั้งยังไม่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน
ส่วนประกาศของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย หรือ สอน. เดิมที่ยังคงอยู่นั้น ได้ประสานแจ้งให้รับทราบถึงประกาศการคุมราคาไปแล้ว เพื่อให้ สอน. ดำเนินการพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปตามนโยบายหลักของรัฐบาล ในการดูแลค่าครองชีพ เพราะน้ำตาลทรายถือเป็นสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน และเป็นต้นทุนสำคัญในหลายตัวสินค้า ทั้งอาหารปรุงสำเร็จ เครื่องดื่ม รวมไปถึงเป็นวัตถุดิบสำคัญในสินค้าอีกหลายตัว จึงต้องลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนมาตรการดูแลชาวไร่อ้อยนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้พิจารณาออกมาตรการมารองรับ
สำหรับมาตรการดูแลราคา มีทั้งการควบคุมการจำหน่ายน้ำตาลทราย หน้าโรงงานไว้เท่าเดิม คือ น้ำตาลทรายขาว ไม่เกินกิโลกรัมละ 19 บาท และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ไม่เกินกิโลกรัมละ 20 บาท และควบคุมราคาขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยน้ำตาลทรายขาว ไม่เกินกิโลกรัมละ 24 บาท และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ไม่เกินกิโลกรัมละ 25 บาท ส่วนพื้นที่อื่นจะขึ้นอยู่กับกับค่าบริหารจัดการต้นทุน และขนส่ง รวมทั้งควบคุมการส่งออก โดยการจำหน่ายเพื่อการส่งออก เกิน 1 ตัน หรือ 1,000 กิโลกรัมขึ้นไป จะต้องขออนุญาตก่อน
ทั้งนี้ กรณีไม่ปฏิบัติตามประกาศการจำหน่ายเกินราคาควบคุม จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 25 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีพบการกักตุน จะมีความผิดตามมาตรา 30 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ โดยผู้บริโภค สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569.-สำนักข่าวไทย