กรุงเทพฯ 1 พ.ย. – แรงงานไทยกลับจากอิสราเอลดีใจ ขานรับ 2 มาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล ทั้งเพิ่มเงินชดเชยรายละ 50,000 บาท และให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำอีกคนละ 150,000 บาท มั่นใจจะช่วยให้เพื่อนแรงงานตัดสินใจกลับไทยอีกไม่น้อยกว่า 50%
ที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล กระทรวงแรงงาน ยังคงมีแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอลเข้ายื่นคำร้องขอค่าเดินทางกลับจากอิสราเอล และลงทะเบียนขอรับสิทธิประโยชน์ กรณีต้องกลับประเทศจากเหตุภาวะสงคราม เพื่อขอรับเงินเยียวยาจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ 15,000 บาท อย่างต่อเนื่อง
แรงงานส่วนใหญ่ บอกว่า ดีใจที่รัฐบาลมีมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือเพิ่มเติม สำหรับแรงงานไทยที่กลับมาแล้ว ที่กำลังจะกลับมา และที่จะกลับมาจากอิสราเอลในอนาคต จะจ่ายเงินชดเชยให้อีกรายละ 50,000 บาท และจะได้เงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ 1% ต่อปี ระยะยาว 20 ปี คนละไม่เกิน 150,000 บาท เพราะเงินส่วนนี้จะมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับตนเองและครอบครัวได้ ในระหว่างที่ต้องหางานทำใหม่ในประเทศ หรือรอไปทำงานประเทศอื่นๆ อีกทั้งจะได้นำไปใช้หนี้สินที่กู้ยืมมา เพื่อไปทำงานที่อิสราเอลก่อนหน้านี้
นายวินัย ชาวนครพนม แรงงานไทยจากอิสราเอลที่เพิ่งเดินทางกลับมาถึงเมื่อวานนี้ บอกว่า ไปทำงานในสวนดอกไม้ ในพื้นที่ทางเหนือติดกับจอร์แดน ได้กว่า 4 ปีแล้ว เหลืออีกแค่ 10 เดือน ก็จะครบสัญญา แต่ด้วยสถานการณ์ที่ดูรุนแรงขึ้นทุกวัน หลังมีปฏิบัติการภาคพื้นดิน ที่นั่นเสี่ยงมาก นอนแทบไม่หลับ ครอบครัวก็เป็นห่วง จึงตัดสินใจกลับประเทศดีกว่า ซึ่งต้องใช้เวลาอยู่เป็นสัปดาห์ กว่าจะได้กลับ เนื่องจากนายจ้างจ่ายค่าแรงช้า พยายามยื้อไม่ยอมให้กลับ เพื่อนแรงงานหลายคนก็ถูกข่มขู่ว่า ถ้ากลับไทยตอนนี้จะไม่ได้ค่าจ้างและเงินประกัน หลายคนจึงยังลังเลอยู่ แต่เชื่อว่าการที่รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มอีกรายละ 50,000 บาท พร้อมเงินกู้อกเบี้ยต่ำ จะช่วยจูงใจให้พี่น้องแรงงานไทยในอิสราเอลตัดสินใจกลับประเทศได้ง่ายขึ้น อาจถึง 50% เพราะเหตุผลหลักที่ยังยอมเสี่ยงตายอยู่ทำงานต่อ ก็คือเรื่องหนี้สินที่กู้ยืมมาทำงาน และบางคนก็เพิ่งเดินทางไปทำงานได้ไม่กี่เดือน ถ้ากลับมาครอบครัวก็ลำบาก. – สำนักข่าวไทย