คุมตัวทำแผน พ่อฆ่าลูก 6 ขวบ ประชดเมีย

ประจวบคีรีขันธ์  29 ต.ค.-ตำรวจภูธรหัวหิน พร้อมชุดสืบสวน คุมตัวพ่อฆ่าลูกวัย 6 ขวบ ทำแผน หลังยอมรับสารภาพเป็นคนลงมือและนำร่างไปทิ้งป่าอ้อย เหตุเครียดถูกเมียทิ้งให้เลี้ยงลูกคนเดียว 


หลังเหตุการณ์หายตัวไปของน้องเจแปน เด็กชายวัย 6 ขวบ ซึ่งพ่อได้ออกตามหาและเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หัวหิน เมื่อช่วงคำวันที่ 27 ตุลาคม 2566 จนกระทั่งเมื่อค่ำวานนี้ (29 ต.ค.66) พบร่างน้องเจแปนเสียชีวิตอยู่ในป่าอ้อย บ้านหนองคร้า ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้พบร่างของน้องเจแปนคือนายนัฐพล หรือ โจ อายุ 23 ปี พ่อแท้ๆ ของน้องเจแปน ที่ออกตามหาลูกกับเพื่อนๆ ซึ่งจุดที่พบร่างอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ตำรวจพบพิรุธจากคำให้การของผู้เป็นพ่อหลายจุด จึงได้นำตัวมาสอบปากคำ จนกระทั่งยอมรับสารภาพ เป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่าลูก นำร่างไปทิ้งไว้ในป่าอ้อย 

พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรหัวหิน ได้เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อรับฟังรายงานความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวน เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่สะเทือนขวัญที่เกิดกับเด็กวัยเพียง 6 ขวบ จากการตรวจสอบพยานแวดล้อมและคำให้การของนายโจ มีพิรุธหลายอย่าง สุดท้ายยอมรับสารภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายโจไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 


สำหรับสาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้ เนื่องมาจากนายโจมีความเครียด เพราะเลิกกับภรรยาได้ประมาณเดือนเศษ ภรรยาหนีไปอยู่ที่อื่น ทิ้งนายโจกับลูกไว้ นายโจอยากให้เมียกลับมาดูลูก อารมณ์ชั่ววูบก่อเหตุหวังประชดเมีย สำหรับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ มีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผน จุดแรก ที่หน้า สภ.หัวหิน จุดที่นายโจไปแจ้งความ ซึ่ง ตอนนั้นน้องเจแปนยังมีชีวิตอยู่ นั่งเล่นมือถืออยู่ในรถ จุดที่ 2 ร้านข้าวซึ่งนายโจลงไปซื้อข้าวโดยมีน้องเจแปนนั่งอยู่ในรถ จุดที่ 3 ป่าอ้อย จุดที่นายโจก่อเหตุ และทิ้งร่างน้องเจแปน และจุดที่ 4 บ้านของนายโจ ซึ่งในวันที่ 27 นายโจยังอยู่กับลูก 

ป้าของนายโจ กล่าวว่า นายโจเป็นคนนิสัยดี รับมาเลี้ยงเหมือนลูก นายโจก็ดูแลตนเองอย่างดีเหมือนแม่แท้ๆ เขามีอาชีพรับตัดแต่งต้นไม้ ตัดหญ้าตามบ้าน เป็นคนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่อยากจะเชื่อว่านายโจจะเป็นคนลงมือ ช่วงที่เขาเลิกกับเมียเดือนกว่า ก็อยู่กับลูกสองคน ไม่เคยตีลูก ในแต่ละวันจะพาลูกขึ้นรถไปทำงานด้วย คาดเกิดความเครียดที่เมียหนีไปแฟนใหม่ ไม่กลับมาดูแลลูก เพราะก่อนหน้านี้น้องเจแปนป่วย แม่น้องก็ไม่มา น่าจะน้อยใจหรือกดดัน ส่วนเรื่องเคยขู่จะฆ่าลูกกับแม่เด็กนั้น ตนเองไม่เคยรับรู้มาก่อน 

สำหรับบรรยากาศการทำแผนวันนี้มีประชาชนมามุงดูจำนวนมาก ขณะที่นายโจ ปิดปากเงียบ ไม่พูดอะไร และอยู่ในอาการเครียด เมื่อทำแผนเสร็จ ตำรวจควบคุมตัวกลับทันที.–สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย