กรุงเทพฯ 12 ก.ค. – กระทรวงการคลังหนุน ธปท.คุมสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล คาดเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศ ไม่กังวลปัญหาหนี้นอกระบบ
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) เตรียมปรับเปลี่ยนเกณฑ์เพดานการปล่อยเงินกู้ สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ว่า เป็นเรื่องที่ดีและกระทรวงการคลังพร้อมสนับสนุนมาตรการของ ธปท. เพราะเป็นการช่วยสร้างวินัยทางการเงิน ไม่ให้เกิดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจระยะยาวมากกว่า และเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อสถาบันการเงิน เพราะประชาชนจะวิเคราะห์การใช้จ่ายมากขึ้น
ส่วนที่มีข้อกังวลว่าหากมีการควบคุมสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จะทำให้ประชาชนหันไปกู้เงินนอกระบบมากขึ้นนั้น ปลัดกระทรวงการคลังชี้แจงว่าไม่น่ากังวล เพราะอีกไม่นานหนี้นอกระบบจะหมดไป ประชาชนที่มีรายได้น้อยจะหันมาพึ่งสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และนาโนไฟแนนซ์มากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีบริษัทสนใจยื่นขอใบอนุญาตจัดตั้งพิโกไฟแนนซ์กับกระทรวงการคลังกว่า 300 ราย
นายสมชัย กล่าวว่า วันที่ 1 ตุลาคมนี้ กระทรวงการคลังพร้อมแจกสวัสดิการให้ผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนกับกระทรวงการคลังกว่า 14 ล้านราย โดยจะใช้งบประมาณรอบแรก 47,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า การที่ธปท.จะออกมาตรการควบคุมสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลนั้น กระทบส่วนแบ่งกำไรจากการที่ธนาคารถือหุ้นในบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 49 แต่หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะกระทบต่อรายได้ของ KTC ไม่มาก เพราะ KTC มีการคัดเลือกลูกค้าที่มีคุณภาพอยู่แล้ว. – สำนักข่าวไทย