รมว.คลังยันโยกปลัดคลังช่วยงานสำคัญประเทศ

กรุงเทพฯ 11 เม.ย. – รมว.คลังเผยยังไม่ได้พบ-พูดคุย “สมชัย สัจจพงษ์” ยืนยันการโยกย้ายปลัดคลังต้องการให้ไปช่วยงานสำคัญของประเทศ ส่วนปลัดคลังส่งไลน์ขอบคุณสื่อกระทรวงการคลัง


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้พบกับนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง และยังไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องการลาออก ซึ่งในช่วงก่อนหน้าที่จะมีมติโยกย้ายนั้น ได้แจ้งให้ปลัดกระทรวงการคลังทราบก่อนแล้ว เนื่องจากตำแหน่งใหม่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งปลัดไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด ส่วนจะเสนอชื่อปลัดกระทรวงการคลังคนใหม่นั้น คาดว่าจะเป็นช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ 

ด้านสมชัย ได้ส่งข้อความผ่านทางไลน์กลุ่มผู้สื่อข่าวกระทรวงการคลังในช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า พี่อู้ขอขอบคุณน้อง ๆ ทุกคนที่ทำให้ชีวิตการรับราชการพี่มีความสุขตลอด 28 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่น้อง ๆ ได้สะท้อนต่อสาธารณะ ทำให้กระทรวงการคลังมีบทบาทต่อชีวิตของคนไทยทั้งชาติ ดีใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้ร่วมทำงานกับน้อง ๆ ซึ่งหลายคนในราชการไม่เคยได้มีโอกาสอย่างพี่ พี่มีความสุขครับและจะจำความสุขนี้ในใจตลอดไปขอบคุณในมิตรภาพที่ดีที่มีต่อพี่ครับ รักครับ


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงกรณีที่นายสมชัย ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากถูกโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ว่า การทำงานของนายสมชัย ที่ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลังมาประมาณ 2 ปี 8 เดือน นั้น ถือว่าทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะนายสมชัยมีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ทั้งด้านปฏิบัติและการออกนโยบาย ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. และอธิบดีกรมศุลกากร จนถึงปลัดกระทรวงการคลัง 

อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ยังไม่มีบุคคลมาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง และเลขาธิการ สศช. แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายในภาพรวม เพราะที่ผ่านมามีการวางโครงสร้างและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีอย่างชัดเจน มีคณะกรรมการปฎิรูป 11 ด้าน และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมกันทำงานปฏิรูป โดยเฉพาะเศรษฐกิจมีความคืบหน้ามากที่สุด ทั้งเศรษฐกิจดิจิทัล การปรับอันดับความยากง่ายของประเทศที่น่าลงทุน เพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 46 เป็น 26 รวมทั้งดัชนีการต่อต้านคอร์รัปชั่นปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งหากสรรหาข้าราชการมาดำรงตำแหน่งทั้ง 2 ตำแหน่งได้ ก็สามารถขับเคลื่อนและเดินหน้านโยบายต่อได้ทันที โดยคาดว่าภายใน 1 เดือนน่าจะหาผู้ที่เหมาะสมได้ .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล