ราคาหมูหน้าฟาร์มตกต่ำ ดิ่งเหลือ 50 บาท/กก.

กรุงเทพฯ 24 ต.ค.-ราคาหมูหน้าฟาร์มตกต่ำ ล่าสุดดิ่งเหลือ 50 บาท/กก. ต่ำกว่าก่อนเกิดโรคระบาด ASF ผู้เลี้ยงกระอัก ขอนายกฯ ช่วยเร่งแก้ปัญหา คู่ขนานกับปราบปรามหมูเถื่อน

นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดของผู้เลี้ยงหมูขณะนี้ คือราคาหมูตกต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยราคาขายจริงเฉลี่ยหมูมีชีวิตหน้าฟาร์ม ลดเหลือ 50 บาท/กิโลกรัม เทียบกับต้นทุนการผลิต 80-85 บาท/กิโลกรัม เฉลี่ยขาดทุนตัวละประมาณ 2,000-3,000 บาท/ตัว นับว่าปัจจุบันเป็นช่วงที่ราคาต่ำสุดเทียบกับปี 63 ก่อนที่ไทยจะเจอปัญหาโรคระบาด ASF ขณะนั้นราคาหน้าฟาร์มเฉลี่ยอยู่ที่ 68-80 บาทต่อกิโลกรัม


“ขณะนี้ เกษตรกรขาดเงินทุนหมุนเวียนเพื่อนำไปใช้จ่ายในการบริหารจัดการฟาร์ม ประกอบกับธนาคารมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย จากปัจจัยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ทั้งราคาตกต่ำ ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสูง ทำให้การกู้เงินของผู้เลี้ยงยากขึ้น และมีต้นทุนสูงขึ้นและไม่มีอำนาจต่อรอง เป็นอุปสรรคต่อการทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์รุ่นต่อไป ทำให้เกษตรกรตัดสินใจเลิกอาชีพทำฟาร์มเลี้ยงหมู” นายสิทธิพันธ์ กล่าว

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 64 จนถึงปัจจุบัน ผู้เลี้ยงสุกรไทยประสบปัญหาใหญ่ 3 ด้านหลัก คือ
1.ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับสูงขึ้น 30% (โดยเฉพาะช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน)
2.พบโรคระบาด ASF ทำให้ลูกสุกรขุนและแม่พันธุ์หายไป 50%
3.หมูเถื่อน มากกว่า 40,000 ตัน ถูกลักลอบนำเข้ามาบิดเบือนกลไกราคา และกลไกตลาดในประเทศ ขายกดราคาต่ำมากจนหมูไทยไม่สามารถแข่งขันได้ ทำให้อุตสาหกรรมสุกรไทยประสบปัญหามาอย่างต่อเนื่อง


นายสิทธิพันธ์ กล่าวว่า ผู้เลี้ยงหมูขอเรียกร้องให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผลักดันให้คณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board) เดินหน้าโครงการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร ให้สามารถขายหมูได้ตามโครงสร้างต้นทุนการผลิตเร่งด่วน ก่อนที่ผู้เลี้ยงทั่วประเทศจะต้องเลิกอาชีพหมดทางทำมาหากิน ซึ่งขณะนี้ราคาสุกรหน้าฟาร์ม เป็นราคาต่ำที่สุดในรอบ 20-30 ปี และทำให้แบกขาดทุนสะสมนานหลายเดือน

ดังนั้น จึงเสนอให้รัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ พิจารณาแก้ปัญหาต้นน้ำของผู้เลี้ยง คือ ต้นทุนวัตถุดิอาหารสัตว์ และขอให้พิกบอร์ดเร่งดำเนินโครงการรักษาเสถียรภาพราคาตามโครงสร้างต้นทุน และเร่งปราบปรามหมูเถื่อนให้หมดสิ้นโดยเร็ว ซึ่งเกษตรกรต้องบริหารจัดการฟาร์มหลายด้านเพื่อความอยู่รอด เช่น การจับหมูก่อนกำหนดไปทำหมูย่าง, ปลดลูกหมูขุนบางส่วนเพื่อทำหมูหัน เป็นต้น เพื่อให้มีสภาพคล่องเลี้ยงฟาร์ม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น