10 ต.ค. – ภรรยาแรงงานไทยชาวน่านที่ทำงานในอิสราเอล เล่าทั้งน้ำตา สามีถูกยิงเสียชีวิตในวันเกิดลูกชายครบ 2 ขวบ
มีการยืนยันว่าแรงงานไทยที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดน่าน เสียชีวิตแล้ว 1 คน คือนายธวัชชัย แซ่ท้าว โดยนางสาวสุนิตา คงพิรินันท์ ภรรยานายธวัชชัย เล่าทั้งน้ำตาว่า ในวันที่ 7 ตุลาคม ได้วิดีโอคอลคุยกับสามี และลูกชาย สามียังอวยพรวันเกิดลูกอายุครบสองขวบพอดี สัญญาว่าเงินเดือนออกจะซื้อของเล่นให้ลูก
ขณะที่คุยกันได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิด สามียังชี้ให้ดูว่าเขายิงจรวดจากทางไหนไปทางไหน แล้วยังเล่าให้ฟังว่า วันนี้ระหว่างทำงานมีจรวดตกมาบริเวณที่ทำงาน แต่หลบได้ไม่เป็นอะไร ก่อนที่สามีจะขอตัวไปกินข้าว เผื่อเกิดอะไรจะได้หนีทัน และบอกว่ากินข้าวเสร็จค่อยคุยกันใหม่ แต่ปรากฏว่าสามีเงียบหายไป พยายามติดต่อไปก็ติดต่อไม่ได้ จนถึงวันที่ 9 ต.ค. ได้ติดต่อผ่านเพื่อนสามีที่ทำงานอยู่แคมป์เดียวกัน จึงทราบว่าสามีเสียชีวิตแล้วตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.
เพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ยังเล่าว่า หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ สามีมานั่งกินข้าวกับเพื่อนคนงาน ระหว่างนั้นมีกลุ่มติดอาวุธบุกเข้ามาขว้างระเบิดใส่ และกราดยิงคนงานที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ สามีโดนยิงที่ขาและเอว และโดสตกลุ่มติดอาวุธลากออกมาแล้วยิงซ้ำ
ภรรยานายธวัชชัย เล่าต่อว่า ครอบครัวมีฐานะยากจน สามีเร่งทำงานเพื่อมาสร้างครอบครัว การเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล สามีไปกู้หนี้ยืมสินมา และเพิ่งไปทำงานได้ปีครึ่ง ก็ใช้หนี้หมด ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้จะนำศพกลับมาอย่างไร ภาครัฐบอกเพียงว่า ยังไม่มีการยืนยัน
สำหรับ จ.น่าน มีแรงงานที่ไปทำงานที่อิสราเอล 898 คน ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้กว่า 10 คน มี 1 คน ที่ได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตแล้วคือนายธวัชชัย แซ่ท้าว
แรงงานไทยเล่านาทีรอดตายจากการถูกกราดยิง
ส่วนที่จังหวัดนครพนม นายชาตรี ชาศรี หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดภรรยาสามารถติดต่อผ่านวิดีโอคอล ยืนยันสามีปลอดภัยแล้ว หลังถูกยิง 1 นัด กระสุนทะลุต้นขาซ้าย นายชาตรี เล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 ตุลาคม อยู่ในแคมป์คนงาน ห่างจากพื้นที่เกิดสงครามเกือบ 10 กิโลเมตร จึงหยุดงานเพื่อความปลอดภัย จู่ ๆ ได้ยินเสียงปืน จึงหนีเข้าห้องน้ำ กลุ่มติดอาวุธกราดยิงไปทั่ว กระสุนปืนทะลุผนังห้องน้ำ ถูกขาซ้ายของตนเอง เพื่อนร่วมงานพากันหาทางช่วยเหลือ ผ่านไป 1 วัน มีทหารอิสราเอลเข้ามาช่วยเหลือส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล อาการปลอดภัย แต่สิ่งที่กังวลคือ สงครามรุนแรงมากขึ้น อยากกลับบ้าน เพราะห่วงชีวิต ทำงานในอิสราเอลมา 4 ปี จะสัญญาครบ 5 ปี หวังเก็บเงินอีก 1 ปี กลับมาสร้างฐานะครอบครัว ตอนนี้ขอกลับไปอยู่กับครอบครัวดีกว่า
ภรรยาแรงงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าทั้งน้ำตาด้วยความห่วงสามีว่า ตนกับสามีแต่งงานกันมานานเกือบ 20 ปีแล้ว เดิมไม่มีอาชีพหลัก สามีจึงตัดสินใจไปทำงานประเทศอิสราเอล ในฟาร์มเกษตร กู้เงินไป 1.2 แสนบาท ได้เงินประมาณเดือนละ 40,000-50,000 บาท ใช้หนี้หมดตั้งแต่ปีแรก จึงสะสมเงินไว้สร้างฐานะ จนครบสัญญารวม 5 ปี เหลืออีก 1 ปี หวังเก็บเงินให้มากที่สุด ไม่คิดว่าจะเกิดสงครามขึ้น มาถึงวันนี้ไม่กังวลเรื่องรายได้แล้ว เพราะห่วงชีวิตสามี ความอยู่รอด จึงขอให้กลับไทย อยากให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือให้เร็วที่สุด .- สำนักข่าวไทย