ประธานศาลฎีกา ย้ำอำนวยความยุติธรรม ปชช.เป็นศูนย์กลาง

ศาลฎีกา 4 ต.ค.-“อโนชา” ประธานศาลฎีกา คนที่ 49 มอบนโยบายศาลทั่วประเทศ ให้เป็น ”ที่พึ่ง เที่ยงธรรม เท่าเทียม ทันโลก” ย้ำอำนวยความยุติธรรม มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง


นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา คนที่ 49 มอบนโยบายประธานศาลฎีกา ปี 2566-2567 แก่ผู้พิพากษาและข้าราชการศาลยุติธรรมทั่วประเทศ ว่า ศาลต้องเป็นที่พึ่ง เที่ยงธรรม เท่าเทียม ทันโลก ( Dependability Fairness Equality Modernization ) โดยที่พึ่ง คือ ศาลยุติธรรมพร้อมเป็นที่พึ่งของประชาชนในโอกาสแรกที่ได้รับความเดือดร้อนหรือมีข้อพิพาท มุ่งเน้นส่งเสริมกระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือก การพัฒนาช่องทางในการเข้าถึงความยุติธรรม รวมทั้งการปฏิรูประบบงาน เพื่อขจัดขั้นตอนซ้ำซ้อน

เที่ยงธรรม คือ ศาลยุติธรรมยืนหยัดเป็นผู้ใช้อำนาจตุลาการด้วยความบริสุทธิ์และยุติธรรม เป็นหลักประกันแห่งสิทธิและเสรีภาพให้แก่ประชาชน พิจารณาพิพากษาอรรถคดีโดยบุคลากรที่มีความรู้เชี่ยวชาญพิเศษในกฎหมายและสาขาวิทยาการต่าง ๆ


เท่าเทียม คือ ศาลยุติธรรมยึดมั่นในการอำนวยความยุติธรรมอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ด้วยมาตรฐานเดียวกัน พัฒนามาตรฐานการปล่อยชั่วคราว รวมทั้งการจัดหาทนายความหรือที่ปรึกษากฎหมายให้แก่ประชาชนในการต่อสู้คดีอย่างมีประสิทธิภาพ

และทันโลก คือ ศาลยุติธรรมเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่ทันสมัยในการบริหารงานคดี พัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อประสิทธิภาพในการบริการประชาชน

ประธานศาลฎีกา เน้นย้ำให้ความสำคัญกับการอำนวยความยุติธรรม โดยมุ่งพัฒนาระบบยุติธรรมและหลักนิติธรรม ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนส่วนรวม ภายใต้วิสัยทัศน์ต่อยอด อันได้แก่ การสานต่อนโยบายเดิมที่ทำสำเร็จแล้ว และที่ยังดำเนินการอยู่ให้สำเร็จ ขยายผลด้วยการระดมสรรพกำลัง นำผลงานที่ประสบความสำเร็จแล้วมาใช้อย่างเต็มที่และขยายขอบเขตให้ครอบคลุมทั่วถึง และสร้างสรรค์ความยุติธรรมที่ยั่งยืน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ด้วยการคิดค้นนวัตกรรม หรือแผนงานใหม่ๆ เพื่อให้ความยุติธรรมธำรงอย่างมั่นคง สามารถตอบสนองความต้องการและผลประโยชน์ของประชาชน โดยจะขับเคลื่อนและสานต่อนโยบายของประธานศาลฎีกาในอดีต นำมาผสมผสานกับนโยบายที่จัดทำขึ้นใหม่ เพื่อให้การดำเนินการในทุกยุคสมัยมีความต่อเนื่องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์

นายกรัฐมนตรี วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พุทธศักราช 2568 ณ ปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า

เครื่องจักรหนักทำงานต่อ เน้นรื้อถอนซากอาคาร โซน D

ช่วงบ่ายวันนี้ เครื่องจักรหนักเริ่มทำงานต่อ เน้นเคลียร์รื้อถอนซากอาคาร โซน D พร้อมเจาะหาโพรงเข้าหาผู้สูญหายเพิ่ม

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ คาดโซน C พบผู้เสียชีวิตมากสุด

เข้าสู่วันที่ 10 ค้นหาผู้ประสบภัยในซากตึก สตง.ถล่ม “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” คาดโซน C น่าจะพบผู้เสียชีวิตมากที่สุด เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตบริเวณนี้ประมาณ 10-20 ร่าง ด้าน “ช่างเบิร์ด” ที่ทำงานวางระบบไฟฟ้า เผยเจรจากับบริษัทผู้จ้างมาแล้ว 3 ครั้ง แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับเงินที่ค้างอยู่