มท.1 ตั้งศูนย์รับแจ้งเบาะแสผู้มีอิทธิพล ปูพรมสร้างความสงบสุขให้สังคม

ก.มหาดไทย 3 ต.ค. – มท.1 นั่งหัวโต๊ะประชุม คกก.อำนวยการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลครั้งแรก เดินหน้าปูพรมสร้างความสงบสุขให้สังคมตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล พร้อมจัดตั้ง “ศูนย์รับแจ้งเบาะแสผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทย” เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมแจ้งข้อมูลเบาะแส


วันนี้ (3 ต.ค.66) เวลา 14.30 น. ที่ห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 2 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ครั้งที่ 1/2566 โดยมีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ผู้บริหารกรมการปกครอง ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการเสริมสร้างความสงบเรียบร้อย สวัสดิภาพ และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทย โดยกระทรวงมหาดไทย ในฐานะส่วนราชการหลักในการเสริมสร้างความสงบสุข ดูแลทุกท้องที่ท้องถิ่นให้มีความปลอดภัย ประชาชนอยู่ดี กินดี ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องหวาดระแวงในภัยอันตราย หรือสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ซึ่งต้องขอขอบคุณคณะกรรมการฯ ที่ประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ให้ความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย ในการขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและปราบปราบการใช้อำนาจในทางมิชอบของผู้มีอิทธิพล ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ส่งผลกระทบทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความหวาดวิตก ความตื่นตระหนก เกิดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมในสังคม โดยกระทรวงมหาดไทยและพวกเราทุกหน่วยงานในฐานะ “เจ้าพนักงานผู้รักษากฎหมาย” มิอาจปล่อยให้ผู้ที่ประพฤติมิชอบได้ใช้อำนาจที่มี รวมถึงกลุ่มผู้ที่ไม่มีอำนาจแต่แสดงตนว่ามีอำนาจในพื้นที่มารังแกข่มเหง ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยคณะกรรมการฯ จะร่วมกันหาแนวทางและวิธีการป้องกันให้มากที่สุดตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายได้กำหนด


“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินนโยบายในการรักษาความมั่นคงภายในและความปลอดภัยในทุกพื้นที่ของประเทศ ซึ่งถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภัยคุกคาม เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สังคมไทยมีความสงบเรียบร้อย เป็นสังคมที่น่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ความไม่เท่าเทียมกันของพี่น้องประชาชน ประกอบกับกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงการสร้างความสงบสุข และการจัดระเบียบทางสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีคำสั่งที่ 2739/2566 แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ลงวันที่ 22 กันยายน 2566 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ และมีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการ ทำหน้าที่ขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยบูรณาการความร่วมมือและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง นำไปสู่การที่ประชาชนคนไทยมีความสุข” นายอนุทิน กล่าวในช่วงต้น

นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ประชุมร่วม 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร ดำเนินการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพล (สีแดง) และบุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง (สีเหลือง) ในพื้นที่แต่ละจังหวัด ซึ่งในขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้รายงานข้อมูลดังกล่าวครบทุกจังหวัดแล้ว และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองประธานกรรมการ ได้มีข้อสั่งการให้ทุกจังหวัดตรวจสอบข้อมูลและปรับปรุงให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยให้เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์ รวมถึงข้อมูลผู้ติดตามหรือบริวารโดยรอบ รวมทั้งองค์ประกอบความผิดต่างๆ โดยละเอียด

“นอกจากนี้ ยังได้ให้ความเห็นชอบร่างคำสั่งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ระดับจังหวัดและระดับอำเภอ และคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล พร้อมทั้งการจัดตั้ง “ศูนย์รับแจ้งเบาะแสผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทย” เพื่อเพิ่มช่องทางให้พี่น้องประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสผู้มีอิทธิพล รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการรับแจ้งข้อมูลจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และยังได้เห็นชอบมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบการตรวจสอบและจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร การขอข้อมูลผู้มีอิทธิพลเพิ่มเติมจากทุกหน่วยงานที่เป็นคณะกรรมการฯ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลผู้มีอิทธิพลกลาง สำหรับใช้ในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ให้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดต่อไป” นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้าย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน