ปราจีนบุรี 16 ธ.ค.-รรท.ผบช.ภ.2 ลั่นพื้นที่ปราจีน ต้องปราศจากนักเลง เตรียมลุยฉีดวัคซีนเข็ม 2 และ 3 ตรวจค้นเป้าหมายผู้มีอิทธิพลต่อไป พร้อมย้ำคดียิง สจ.โต้ง ตำรวจภูธรภาค 2 ทำงานเต็มที่ ไม่มีส่วนบกพร่อง แต่เพื่อความสบายใจ ของทุกฝ่าย อาจต้องให้กองปราบทำคดีต่อ
เวลา 17.00 น. พลตำรวจโทยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นประธานแถลงข่าว ขุดราชถอนโคน ตำรวจภาค 2 ล้อมปราจีนบุรี ทลายรังนักเลง ล็อคเป้า ลุยคน 3 วัน 59 เป้าหมายยึดอาวุธปืน ปลดล็อคผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้าง เตรียมความพร้อม รับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรี
โดยพลตำรวจโทยิ่งยศ กล่าวว่า ปฏิบัติการ ยุทธการทลายรังนักเลง Ep 1 ปฐมบท ไล่ล่านักเลงปราจีนกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี หลังเกิดเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสจโต้ง อบจปราจีนบุรี หรือ โกธร เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากการ ขยายผล ปูพรมเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายใน 12 อำเภอ รวม 59 เป้าหมาย สามารถตรวจยึดอาวุธปืนได้ 79 กระบอก โดยในจำนวนนี้เป็นอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียนจำนวน 2 กระบอกกระสุนปืน 600 กว่านัด และสามารถจับกุมผู้ต้องหาผู้ครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมายดำเนินคดีได้ถึง 8 ราย
โดยพลตำรวจโทยิ่งยศ ยอมรับว่า ทั้ง 59 เป้าหมาย ที่เข้าทำการตรวจค้นตลอด 3 วันที่ผ่านมา คือวันที่ 14 ถึง 16 ธันวาคม ซึ่งเป็นการขยายผลมาจากคดี การเสียชีวิต สจ.โต้ง ซึ่งหลังจากนี้ปัญหากลุ่มนักเลง และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ปราจีนบุรีจะต้องหมดไปและต้องไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก พร้อมยอมรับว่า การตายของสจโต้ง ทำให้ ตำรวจ กังวลใจ อาจเกิดปัญหา ล้างแค้น เกิดขึ้น ในอนาคต จึงจำเป็นจะต้องทำการ ป้องกัน ปราบปรามและป้องปรามปัญหาที่จะเกิดในเวลาเดียวกันจึงนำมาสู่ยุทธการ ทลาย รำนักเลง Ep 1 ซึ่งในอนาคต ก็อาจมี EP 2 และ Ep 3 ตามมาอีก หากยังคงมีความเคลื่อนไหว
สำหรับความคืบหน้าของคดี สจ.โต้งเสียชีวิตในบ้านของโกทร และทางภรรยารวมถึงครอบครัวของสจ. โต้ง ยื่นคำร้องขอให้ โอนสำนวนคดีดังกล่าว ไปให้กองปราบปรามรับผิดชอบนั้น พลตำรวจ โทยิ่งยศ กล่าวว่า ตนได้หารือ กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าเพื่อความสบายใจของทุกคนที่เกี่ยวข้อง อาจมีความจำเป็นต้องให้หน่วยงานกลาง อย่างกองปราบเข้ามารับผิดชอบคดีนี้ แต่ยืนยันที่ผ่านมา ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาและได้รับรายงานการทำงานของลูกน้อง ทั้งการสืบสวน,สอบสวนและการระงับเหตุในคืนเกิดเหตุ ตนรู้ว่าตำรวจภูธรภาค 2 ทำงานเต็มที่แล้ว ไม่ได้มีความบกพร่องแต่อย่างใด แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายหากกองปราบจะทำคดีนี้ ภาค 2 ก็ยินดี
ส่วนกรณี หลายคนออกมาตั้งข้อสังเกตว่า 2 ใน 7 ผู้ต้งหารับเป็นคนลงมือยิงสจ.โต้ง อาจไม่ใช่ มือปืนตัวจริงนั้น ตนไม่สามารถตอบได้ แต่ยืนยันตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อ อยากตอบก็ตอบไป แต่ตำรวจรวบรวมหลักฐานและเรามีหลักฐานอยู่แล้ว ส่วนคดีนี้จะมีผู้ร่วมก่อเหตุหรือผู้ต้องหาเพิ่มเติมหรือไม่ต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนในอนาคต.-314.-สำนักข่าวไทย