กรุงเทพฯ 22 ก.ย.-สถาบันเฟรเซอร์ (Fraser Institute) จากแคนาดา เปิดเผยรายงานดัชนีเสรีภาพทางเศรษฐกิจทั่วโลก (Economic Freedom of the World Index) ประจำปี 2566 โดยระบุว่า ไทยติดอันดับ 64 จากทั้งหมด 165 ประเทศและดินแดนทั่วโลก
Fraser Instituteg เปิดเผยรายงานดัชนีเสรีภาพทางเศรษฐกิจทั่วโลก (Economic Freedom of the World Index) ประจำปี 2566 (อ้างอิงข้อมูลล่าสุดเมื่อปี 2564) โดยระบุว่า ไทยติดอันดับ 64 ด้วยคะแนน 7.07 คะแนน และติดอันดับ 3 ในอาเซียน โดยในอาเซียน สิงคโปร์ครองอันดับ 1 ตามด้วยมาเลเซียติดอันดับ 56 ด้วยคะแนน 7.19 คะแนน ต่อด้วยไทยที่อันดับ 64, ฟิลิปปินส์อยู่ที่อันดับ 70 ด้วยคะแนน 7.01 คะแนน, อินโดนีเซียอยู่ที่อันดับ 74 ด้วยคะแนน 6.93 คะแนน, กัมพูชาอยู่ที่อันดับ 78 ด้วยคะแนน 6.82 คะแนน, เวียดนามอยู่ที่อันดับ 106 ด้วยคะแนน 6.26 คะแนน,สปป. ลาวอยู่ที่อันดับ 107 ด้วยคะแนน 6.25 คะแนน และเมียนมาอยู่ที่อันดับ 150 ด้วยคะแนน 5.33 คะแนน
ขณะที่สิงคโปร์ครองอันดับ 1 ของโลก ด้วยคะแนน 8.56 คะแนน แรงหนุนจากคะแนนที่เพิ่มสูงขึ้นในหัวข้อรัฐบาลและการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบ โดยคะแนนรวมของสิงคโปร์เพิ่มสูงขึ้น 0.06 คะแนน ทำให้คว้าอันดับแรกไปครอง
สิงคโปร์แซงหน้าฮ่องกงที่ร่วงลงเป็นครั้งแรกไปอยู่ที่อันดับ 2 ด้วยคะแนน 8.55 คะแนน ตามมาด้วยสวิตเซอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ และสหรัฐ ซึ่งอยู่ในอันดับ 3–5 ตามลำดับ นับว่า ฮ่องกงหลุดจากอันดับ 1 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการทำดัชนีเสรีภาพทางเศรษฐกิจทั่วโลก เนื่องจากรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการจำกัดการเข้าเมือง จำกัดการจ้างแรงงานต่างชาติ และเพิ่มต้นทุนการทำธุรกิจ ซึ่งทำให้คะแนนในหัวข้อที่เกี่ยวกับกฎระเบียบของฮ่องกงลดลง 0.25 คะแนน และการที่ทหารเข้าแทรกแซงหลักนิติธรรมและบั่นทอนความเชื่อมั่นในความเป็นอิสระของตุลาการและความเป็นกลางของศาลฮ่องกงทำให้คะแนนในหัวข้อระบบกฎหมายและสิทธิในทรัพย์สินลดลง 0.20 คะแนน
ขณะที่สิงคโปร์ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 โดยได้แรงหนุนจากคะแนนที่เพิ่มสูงขึ้นในหัวข้อรัฐบาลและการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบ โดยคะแนนรวมของสิงคโปร์เพิ่มสูงขึ้น 0.06 คะแนน ทำให้คว้าอันดับแรกไปครอง
ส่วนอันดับรั้งท้ายได้แก่ สาธารณรัฐคองโก แอลจีเรีย อาร์เจนตินา ลิเบีย อิหร่าน เยเมน ซูดาน ซีเรีย ซิมบับเว และเวเนซุเอลา ซึ่งอยู่ที่อันดับ 156– 165 -สำนักข่าวไทย