กำจัดผู้มีอิทธิพลใช้อำนาจมิชอบ

โรงแรมรามาการ์เด้น 18 ก.ย.-รมว.มท.มอบ 10 นโยบายมุ่งพัฒนาสังคม-ส่งเสริมเศรษฐกิจ ขออาสาเป็น ‘หนู’ ช่วยภารกิจ ‘ราชสีห์’ ย้ำกำจัดผู้มีอิทธิพลใช้อำนาจมิชอบ


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุมมอบนโยบายและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเกรียง กัลป์ตินันท์ นายทรงศักดิ์ ทองศรี และ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัด ตลอดจนเจ้าหน้าที่ข้าราชการจากทุกภาคส่วนทั่วประเทศร่วมเข้ารับฟัง โดยนายอนุทิน กล่าวว่า “กราบเรียนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยทั้ง 3 ท่าน และปลัดกระทรวงสาธารณสุข” ทำให้ สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พูดแก้ขึ้นมาว่า “มหาดไทยครับ” ทำให้ อนุทิน หัวเราะและกล่าวขออภัย และว่า “นี่ถือเป็นความสับสนที่ดีนะครับ แสดงว่าผมไปไหนผมก็มีความผูกพันกับทุกท่านตลอดเวลา” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนในห้องนี้ถือว่าเป็นพี่ๆ น้องๆ กัน เพราะมีความคุ้นเคยกัน ตั้งแต่ครั้งตนยังไม่มีตำแหน่งหรือมีตำแหน่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ในหลายโอกาสก็เรียกทุกคนว่าพี่ ทั้งรัฐมนตรีช่วย ปลัดกระทรวง และเจ้าหน้าที่ในทุกหน่วยงาน กระทรวงมหาดไทยต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดส่งผลต่อประชาชนโดยตรงในทุกมิติและบริบท จึงขอให้ทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนทั้งภารกิจและนโยบายของรัฐบาล ประกอบด้วยแนวนโยบาย 10 ประการ คือ 1) การพัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างรายได้ โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมไปถึงการสร้างงาน รายได้ สร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชน 2) ลดต้นทุนจากการใช้น้ำ โดยติดตั้งเครื่องกรองน้ำสะอาดให้ประชาชนที่อยู่ไกลจากแหล่งน้ำ ร่วมกับการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาคที่กำลังเร่งปรับปรุงคุณภาพน้ำ และในระยะยาวต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนสามารถดื่มน้ำจากก็อกได้


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า 3) ลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันในทุกส่วนราชการ ส่งเสริมการติดตั้งหลังโซลาร์เซลล์ หรือ Solar Roof บนหลังคาของสถานที่ราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำการปฏิบัติการด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality Roadmap) จัดหารถพลังงานสะอาด หรือรถ EV 4) มุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาด สนับสนุนให้มีการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ในที่อยู่อาศัย และเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าส่วนเกิน ส่งเสริมให้ชุมชนสร้างรายได้จากพลังงานสะอาด เช่นการตั้งธนาคารคาร์บอน 5) จัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อสร้างความสงบสุขเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ปลอดยาเสพติด ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สิ่งใดที่สวนทางกับเรื่องนี้ เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยต้องกำจัดให้สิ้นไป โดยต้องตั้งหลักกันว่าผู้มีอิทธิพลในที่นี้คืออะไร สำหรับ กระทรวงมหาดไทย ผู้มีอิทธิพลหมายถึงคนที่ใช้อำนาจที่ตนมีอยู่ในทางที่ไม่ชอบ

“ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเลงหัวไม้ หรือเป็นอันธพาล คนดีๆ นี่แหละ มีอำนาจแต่ใช้ในทางมิชอบ เอาไปข่มเหงคนอื่น ก่อให้เกิดประโยชน์ส่วนตน แล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อน กีดกันโอกาส ไม่ว่าจะอำนาจภาครัฐ อำนาจบารมีในท้องถิ่น อำนาจเงิน หรืออำนาจจากสายสัมพันธ์ต่างๆ ถ้าเราใช้อิทธิพลที่คุณมีอยู่ ประกอบคุณประโยชน์ คุณงามความดี ก็เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ แต่การใช้อิทธิพลให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อสังคมต่อประเทศชาติ เป็นสิ่งที่ต้องกำจัด” นายอนุทิน กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า 6) ใช้ระบบดิจิทัลสร้างความสะดวกสบายให้ผู้มาใช้บริการ ติดต่อราชการในระบบ One Stop Service เพื่อลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ และลดการทุจริต 7) อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของประเทศ 8) การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาด และการจำหน่าย ลดรายจ่าย สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ให้สอดคล้องกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล 9) การแก้ไขปัญหายาเสพติด ปราบปรามและรักษาอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องป้องกันให้ผู้คนห่างไกลยาเสพติดให้มากที่สุด ต้องกำหนดตัวชี้วัดให้ชัดเจน มีพื้นที่รับผิดชอบและการปฏิบัติที่เข้มข้น หากพื้นที่ใดมียาเสพติดเพิ่มขึ้นจากการละเลย เจ้าของพื้นที่นั้นต้องแสดงความรับผิดชอบ ต้องล้อมรั้วเขตปกครองของตนเอง 10) สนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุขปฐมภูมิและการเตรียมความพร้อม ท้องถิ่นรองรับสังคมผู้สูงอายุ ถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) เพราะกระทรวงสาธารณสุขแบ่งรับภาระเต็มที่อยู่แล้ว สามารถช่วยตัดขั้นตอนได้ จัดตั้งประธานชีวาภิบาลประจำท้องถิ่น


นายอนุทิน เน้นย้ำถึงแนวนโยบายผู้ว่า CEO เพื่อบูรณาการความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ที่สามารถวัดผลได้ ซึ่งผู้สื่อข่าวเคยถามเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวหลายครั้ง ว่าเป็นการรวบอำนาจหรือไม่ ซึ่งถ้าถามตน 10 ครั้งก็ตอบเหมือนกัน 10 ครั้ง ไม่มีใครอยากรวบอำนาจเหล่านี้มาหรอก มันอยู่บนบ่าพวกเราทั้งนั้น แต่เราต้องการประสานเชื่อมโยงเครือข่ายต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น คำว่า CEO คือผู้บริหาร ไม่ใช่ผู้รวบอำนาจ กระทรวงมหาดไทยเปรียบเสมือนราชสีห์ ตามสัญลักษณ์ในตราพระราชลัญจกร จึงมีภารกิจของราชสีห์ ส่วนตัวเองชื่อเล่นชื่อหนู

“ท่านเป็นราชสีห์ ให้หนูช่วยเถอะครับ อะไรที่ท่านติดขัด ท่านสามารถมาบอก แล้วก่อให้เกิดคุณประโยชน์กับคุณในทุกด้าน ผมยินดีทำให้ยินดีรับผิดชอบร่วมกับท่าน ราชสีห์คงไม่ตะปบเรา ก็เป็นหนูที่ช่วยราชสีห์และคงอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุข ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีในนิทานอีสปหรอกครับ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว