สปท.เห็นชอบชง กสทช. ใช้ระบบแสกนนิ้ว-ใบหน้าลงทะเบียนมือถือ

รัฐสภา 3 ก.ค. – สปท. เห็นชอบจัดระเบียบสื่อออนไลน์ทั้งระบบ  ชง กสทช. ใช้ระบบแสกนนิ้ว และ ใบหน้า ควบคู่การใช้บัตรประชาชน ลงทะเบียนมือถือ และให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวพื้นฐาน ขณะเดียวกัน ดึงสรรพากรใช้มาตรการจัดเก็บภาษีซื้อ-ขาย ผ่านสื่อออนไลน์ด้วย


ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) วันนี้ (3 มิ.ย.) พิจารณารายงานผลการศึกษาและข้อเสนอแนะการปฏิรูปการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการสื่อสารมวลชน โดยพล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธานกรรมาธิการฯ  เสนอแนวทางการปฏิรูปการใช้โซเชียล มีเดีย ในระยะเร่งด่วน ที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2560-2562 คือ การจัดระบบการเข้าถึงสื่อออนไลน์  

พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าวว่า จะต้องจัดระบบการเข้าถึงสื่อออนไลน์  ด้วยการเพิ่มมาตรการจัดระเบียบการลงทะเบียนโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะระบบเติมเงิน โดยให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ปรับแผนที่จะใช้ลายนิ้วมือ  ใบหน้า ควบคู่กับการลงทะเบียนโทรศัพท์มือถือด้วยบัตรประชาชน ที่จะเริ่มใช้บังคับในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ปรับเปลี่ยนมาใช้บังคับในทุกจังหวัดทั่วประเทศ  เพื่อให้การบังคับใช้เป็นไปอย่างครอบคลุม และเป็นผลดีต่อการรักษาความปลอดภัยในทุกพื้นที่ รวมทั้ง ให้มีการจำกัดจำนวนการลงทะเบียนการใช้ซิมของบุคคลให้เหมาะสม  เพื่อป้องกันการกว้านซื้อซิม เพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์


พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าวว่า กรรมาธิการฯ ยังเสนอให้จัดตั้งศูนย์กลางบริหารจัดการข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ โดยบริษัทที่ให้บริการโทรศัพท์มือถือ จะต้องส่งข้อมูลให้กับศูนย์กลางบริหารข้อมูลโทรศัพท์มือถือ ทุกครั้งที่มีการจดทะเบียนและยกเลิกการใช้งาน รวมทั้ง  เปิดเผยข้อมูลพื้นฐานของผู้ครอบครองมือถือ เพื่อลดปัญหาการใช้สื่อออนไลน์ที่ไม่เหมาะสม ตลอดจนให้ระบบจัดเก็บข้อมูลของบริการ CDN (Content Delivery Network) และ Caching Server ของสื่อออนไลน์ต่างประเทศที่ติดตั้งในประเทศต้องขึ้นทะเบียนการให้บริการกับ กสทช. และต้องกำหนดให้จัดเก็บ log เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนทางคดี

พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าวว่า กรรมาธิการฯ ยังเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์กลางเฝ้าระวัง โดยปรับภารกิจงานเฝ้าระวังของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มาให้กับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เป็นผู้ดำเนินการแทน รวมทั้ง ให้กรมสรรพากรปรับปรุงกฎหมายประมวลรัษฎากร เร่งรัดการใช้มาตรการทางภาษีกับผู้ให้บริการสื่อออนไลน์ต่างประเทศโดยเร็ว เพื่อใช้ควบคู่กับการทำให้การบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีผู้บริโภค กับการใช้โฆษณาหรือการซื้อขายผ่านสื่อออนไลน์ให้เป็นจริง โดยให้ถือว่าการประกอบธุรกิจออนไลน์ในไทยของต่างประเทศ อยู่ในเกณฑ์ต้องเสียภาษี  

พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าวว่า กรรมาธิการฯ ยังเสนอให้ระยะยาวตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ต้องมีการปลูกจิตสำนึกที่ดี ให้ความรู้ในการใช้โซเชียลมีเดียกับประชาชน รวมถึ งการใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการออกกฎหมายคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการใช้อินเตอร์เน็ต ที่จะต้องกำหนดอายุอย่างชัดเจน


“รายงานฉบับเป็นการเสนอมาตรการแก้ไขปัญหา หลังพบว่าสื่อออนไลน์ กลายเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ ที่เกินความเป็นจริง  มีการเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร จนนำไปสู่ปัญหาการขายบริการทางเพศผ่านสื่อออนไลน์ รวมทั้ง การพนันและยาเสพติด   และยังมีการนำสื่อออนไลน์ไปใช้ทางการเมือง จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการบริหารราชการของรัฐบาล รวมถึง สถาบันหลัก  กลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิก สปท. ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุน  โดย พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สปท.  กล่าวสนับสนุนรายงาน โดยเฉพาะข้อเสนอให้จำกัดจำนวนการลงทะเบียนเปิดซิมมือถือให้เหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันพบผู้ครอบครองซิมเป็นจำนวนมาก เพื่อทำธุรกิจโหวตให้คะแนนการประกวดร้องเพลง หรือประกวดนางงาม ซึ่งไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน  

อย่างไรก็ตาม พล.อ.เลิศรัตน์  ไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้นำระบบการแสกนนิ้วและใบหน้า มาใช้ควบคู่กับบัตรประชาชน เพื่อลงทะเบียนมือถือ เพราะมองว่าจำกัดสิทธิมนุษยชน และเกินกว่าเหตุ เนื่องจากบัตรประชาชนเพียงใบเดียว ก็สามารถยืนยันตัวตนและตรวจสอบได้ และไม่เห็นด้วยกับการให้เปิดเผยข้อมูลพื้นฐานส่วนตัวกับศูนย์กลางบริหารจัดการข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สุดแล้ว สปท.ลงมติด้วยคะแนน 144 ต่อ 1 เห็นชอบกับรายงานดังกล่าว ซึ่ง พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธานกรรมาธิการฯ ระบุว่า จะรับฟังความเห็น แนบไปกับรายงานที่จะเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป       .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

นายกฯ ลงพื้นที่ยะลา พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ปลื้มต้อนรับอบอุ่น

นายกฯ ขึ้น ฮ. ลงยะลา ทักทายเป็นภาษามลายู พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ปลื้มต้อนรับอบอุ่น บอกมีตรงไหนเดือดร้อน รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ลั่นอยู่ศาสนาใด-เชื้อชาติใด คนไทยด้วยกัน ขอรักสามัคคีกัน

ข่าวแนะนำ

สถานบันเทิงครบวงจร

“จิรายุ” ย้ำจำเป็นต้องทำ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

“จิรายุ” กางไทม์ไลน์ร่างกฎหมาย Entertainment Complex ถ้าใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน ย้ำจำเป็นต้องทำ เพื่อควบคุมธุรกิจใต้ดิน​ ค้ามนุษย์ ไม่ให้เงินทองไหลออกนอกประเทศ ประเมินนักท่องเที่ยวปีนี้อาจแตะ 38 ล้านคน หลังลดลงช่วงโควิด

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนตะวันออก และใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนอง อ่าวไทยตอนล่าง คลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ระทึก! ฝรั่งคลั่งจี้ภรรยา สกัดจับได้แล้ว

ระทึกกลางถนน พลเมืองดีพบเหตุชายต่างชาติคลั่ง ใช้ปืนจี้ภรรยาคนไทย ขับรถจาก อ.หลังสวน มุ่งหน้าไปทางชุมพร ในรถมีเด็ก 2 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดจับได้แล้ว

นายกฯ คิกออฟ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง

นายกฯ คิกออฟ เปิดโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์ หวังยกระดับคุณภาพชีวิต มีบ้านใกล้ที่ทำงาน ลดความเหนื่อยล้า มีแรงช่วยพัฒนาประเทศ เผยหลังเปิดจองพบประชาชนกว่า 12 ล้านคน เข้าจองสิทธิ์ในเว็บไซต์จนเว็บล่ม ขณะที่ชาวบ้านมารอเข้าคิวที่สถานีกลางบางซื่อ คึกคักตั้งแต่ตี 5