“บิ๊กโจ๊ก” ชี้ ตร. ในงานเลี้ยงบ้าน “กำนันนก” ให้การเท็จ

นครปฐม 15 ก.ย. – “บิ๊กโจ๊ก” เปิดข้อมูลวงจรปิดบ้าน “กำนันนก” พบ ตร.ให้การเท็จ โกหกพาคนเจ็บ-คนตายไป รพ. หลังเสียงปืนดังต่างหลบหนี ไม่มีใครระงับเหตุทั้งที่พกปืน จ่อหมายจับเพิ่ม


เมื่อคืนที่ผ่านมาที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงรายละเอียดข้อมูลภาพกล้องวงจรปิดในงานเลี้ยงบ้าน “กำนันนก” ที่เกิดเหตุยิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าในบ้านกำนันนกมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด 15 ตัว กู้เซิร์ฟเวอร์ได้มา 13 ตัว สมบูรณ์ 100% เห็นภาพและได้ยินเสียงชัดเจน ว่าใครทำหน้าที่อะไรก่อนและหลังเกิดเหตุ ใครโกหกว่าช่วยเหลือคนเจ็บแต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ช่วย ส่วนกล้องวงจรปิดที่เหลืออีก 2 ตัว กำลังเร่งดำเนินการ คาดว่าวันนี้ (15 ก.ย.) ช่วงบ่ายจะได้ภาพครบทั้งหมด แต่ไม่สามารถลงรายละเอียดพฤติการณ์ได้ว่าคนไหนทำอะไรอยู่ เพราะเกี่ยวกับเรื่องคดีและเป็นข้อมูลในสำนวนการสอบสวน

ขณะนี้สรุปภาพรวมได้ว่าทุกคนให้การขัดแย้งกับข้อเท็จจริง วันนี้จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงการให้การเท็จต่างๆ ส่วนใครจะมีความผิดอย่างไร คืนนี้จะประชุมคณะทำงานและค่อยๆ ไล่เรียงไป ส่วนจะออกหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่ต้องมาไล่เรียงอีกครั้งภาพที่ออกมาเห็นได้ชัดเจนว่าคนเจ็บอยู่ในลักษณะอย่างไรบ้าง การก่อเหตุเป็นอย่างไร ซึ่งเห็นภาพชัดเจนทั้งหมด สอดรับกับแนวทางการสืบสวน


ส่วนเรื่องอาวุธปืนมีทั้งตำรวจและคนนอก ซึ่งมีจำนวนมาก เป็นรายละเอียดที่ปรากฏตามภาพแต่ไม่สามารถลงรายละเอียดมากกว่านี้ได้ วันเกิดเหตุจากหลักฐานพบว่าทั้งตำรวจและพลเรือนเกือบทุกคนพกปืนจำนวนมาก ซึ่งต่างคนต่างหนีหลังปืนนัดแรกดังขึ้น ไม่มีใครพยายามจะระงับเหตุ ซึ่งทุกคนเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล กลุ่มที่หลบหนี และกลุ่มที่ช่วยควบคุมพื้นที่หลังเกิดเหตุ สำหรับใครทำอะไรบ้างตอนเกิดเหตุ ใครอยู่ตรงไหน ใครถือปืน ใครโกหกว่าช่วยคนเจ็บแต่จริงๆ แล้วไม่ช่วย เรารู้หมดแล้ว ขณะที่มือยิงยืนยันว่าเป็นนายหน่องที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญไป แต่คนสั่งนายหน่องจะเป็นกำนันนกหรือไม่ ต้องรอดูกล้องวงจรปิดอีก 2 ตัวที่เหลือ

ส่วนตอนนี้เรื่องสำคัญคือการตรวจเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมดว่าเงินที่เข้ามานั้นถูกต้องหรือไม่ การประมูลโครงการทั้งหมด 1,500 โครงการ เป็นการประมูลที่ถูกต้องหรือไม่ มีการเสียภาษีหรือไม่ ซึ่งวันนี้ทุกส่วนตั้งทีมร่วมกัน แบ่งหน้าที่กันว่าใครทำอะไร ตรวจสอบเรื่องไหน แต่เรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ส่วนนี้ ป.ป.ง. จะเป็นคนดำเนินการ ถ้ามีความผิดต้องนำไปสู่ความผิดฐานฟอกเงินและยึดทรัพย์ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องทำตามมา และส่วนที่ 2 ต้องไล่เรื่องส่วยสติกเกอร์ว่ามีการประกอบกิจการน้ำหนักเกินหรือไม่

ส่วน รปภ.ที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิดว่าถือปืน วันนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ส่วนปืนที่ รปภ.คนดังกล่าวได้มา มาจากญาติที่ซื้อปืนด้วยสวัสดิการ ทำหน้าที่ปกป้องกำนันนกหลังเสียงปืนดังขึ้น


นอกจากนี้ยังพบว่าในที่เกิดเหตุมีคนร่วมงานมากกว่า 56 คน ซึ่งต้องไล่สอบปากคำทั้งหมดอีกครั้ง ส่วนที่มีรายงานว่ามีตำรวจยศรองสารวัตรปราบปรามใน จ.นครปฐม ขับรถนำกำนันนกในวันเกิดเหตุได้แจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ประเด็นนี้อยู่ระหว่างสอบสวน และอาจมีการตรวจค้นเป้าหมายเพิ่มเติม แต่ยังบอกพิกัดไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น