กรุงเทพฯ 13 ก.ย.-“วิกรม” ย้ำ “อมตะ” ไม่มีนโยบายชักชวนลงทุน ที่เห็นทางออนไลน์ทั้งหมดเป็นมิจฉาชีพ เสนอรัฐบาลปราบให้สิ้นซาก เพิ่มโทษสูงสุดประหารชีวิต
นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ที่ผ่านมาปัญหาเพจปลอมหลอกชักชวนประชาชนร่วมลงทุน โดยอ้างผลตอบแทนสูงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนับวันยิ่งจะรุนแรง ซึ่ง อมตะ เป็นหนึ่งในเป้าหมายของกลุ่มมิจฉาชีพ นำชื่อไปแอบอ้างเพื่อชักชวนให้ประชาชนร่วมลงทุงผ่านออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์โดยอ้างว่าให้ผลตอบแทนสูงในระยะสั้น ซึ่งเกินไปจากความเป็นจริงมาก ที่ผ่านมามีหลายคนหลงเชื่อสูญเงินจำนวนน่าจะถึงหลักพันล้านบาท เพราะตนเองเป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีทั้งหนังสือ อีบุ๊ก และมีรายการทางโทรทัศน์อีก ทำให้คนหลงเชื่อ ขนาดเพื่อนของตนยังหลงเชื่อ จากการสอบถามผู้เสียหายทราบว่าบางรายสูญเงินมากสุดถึง 3 ล้านบาท ย้ำตนเอง และบริษัทไม่มีนโยบายชักชวนใครมาลงทุน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการชวนลงทุนในบริษัท ลงทุนในมูลนิธิฯ ล้วนเป็นมิจฉาชีพ ที่แอบอ้างชื่อตน ขออย่าหลงเชื่อ
“ผมและบริษัท ไม่มีนโยบายชักชวนใครมาลงทุน แม้กระทั่งในตลาดหลักทรัพย์เองก็ไม่เคยชวน นอกจากช่วงแรกในช่วงก่อตั้งบริษัทที่ชวนเพื่อน ชวนผู้ถือหุ้น 10 คนมาลงทุนซึ่งก็นานมาแล้ว ย้ำคนเหล่านั้นเป็นมิจฉาชีพที่มาหลอกลวงการแอบอ้างให้รายได้ ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง ไม่มีบริษัทใดสามารถให้ได้ อมตะเองตอนนี้ก็ให้เงินค่าดอกเบี้ยก็ไม่สูง เดือนละ 2-3%”นายวิกรม กล่าว
นายวิกรม กล่าวว่า อมตะ ได้ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รู้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้เกิดความระมัดระวังในการลงทุน ทั้งยังร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปราบปรามและจับกุมผู้กระทำผิด โดยมีแผนดำเนินการยึดทรัพย์ผู้กระทำผิด กว่า 600 ล้านบาทเพื่อมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังมีระบบเตือนภัยผ่านข้อมูลข่าวสารทางเพจตำรวจไซเบอร์ เพื่อเป็นจุดสังเกต โดยสังเกตที่เครื่องหมาย Blue Badge หรือเครื่องหมายถูกสีฟ้า ที่แสดงถึงบัญชีหลักของเพจอมตะ หรือบริษัทอื่นๆ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ
ที่สำคัญ อยากให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ที่มีการใช้ฐานของต่างประเทศเป็นแหล่งหลอกลวงมายังประเทศไทย ซึ่งนอกจากกระทบกับประชาชนแล้วยังกระทบต่อความเชื่อมั่นของการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และเป็นการสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมเสนอให้รัฐบาล 1.นำเสนอประชาสัมพันธ์ถึงผลกระทบ ความเสียหายจากการถูกมิจฉาชีพหลอกต่อเนื่อง ว่าเสียหายเท่าไหร่ เสียหายอย่างไรเสนอทุกวันต่อเนื่องให้เหมือนกับเพลงชาติ
2.เพิ่มบทลงโทษมิจฉาชีพ สูงสุดคือ ประหารชีวิต เพราะทำให้เกิดความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่น ทุกวันนี้หลายคนไม่กล้ารับโทรศัพท์ เพราะกลัวเป็นมิจฉาชีพ อย่ากลัวประเทศไทยสูญเสียประชากร ควรกลับไปใช้โทษประหารชีวิต ไม่ควรสงสารคนเลว
3.ประเทศที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จีน ไต้หวัน ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ของกลุ่มมิจฉาชีพ /ประเทศให้ที่พักพิง คือ กัมพูชา พม่าลาว และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องควรร่วมมือกัน ปราบปรามอย่างเข้มข้น
4.เมื่อจับผู้กระทำผิดได้แล้ว ก็ให้จีนซึ่งเป็นพี่ใหญ่ ดำเนินการลงโทษเพื่อมิจฉาชีพจะลดลง ความสูญเสียก็ลดลง.-สำนักข่าวไทย