นครปฐม 8 ก.ย.-ตำรวจนครปฐม ส่งตัว “กำนันนก” ไปควบคุมกองปราบ หลัง ผบ.ตร. อนุมัติโอนสำนวนไว้ส่วนกลาง ป้องกันแทรกแซงคดี เจ้าตัวสีหน้าอิดโรย แต่สายตายังแข็งกร้าว พร้อมเปิดแผนผังคืนงานเลี้ยง
เมื่อช่วง 08.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดหนุมานกองปราบ อาวุธครบมือ เดินทางมาควบคุมตัว “กำนันนก” หรือนายปวีณ คล้ายจันทร์ จากห้องขัง สภ.เมืองนครปฐม ไปยังกองปราบปราม ที่กรุงเทพฯ หลังจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอนุมัติให้โอนสำนวนคดี จาก สภ.เมืองนครปฐมซึ่งอยู่ภายใต้กำกับดูแลของตำรวจภูธรภาค 7 ไปไว้ที่ส่วนกลางกองปราบ โดย “กำนันนก” เปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อยืดสีดำ จากเมื่อวานตอนเข้ามอบตัวใส่เสื้อยืดสีขาว มีสีหน้าโรย คาดว่า “กำนันนก” จะไม่ได้นอนหลายชั่วโมง นับตั้งแต่เกิดเหตุยิงตำรวจกลางบ้านพักตัวเอง อดนอนต่อเนื่องในช่วงหลบหนีเมื่อวาน และถูกสอบปากคำหลายชั่วโมงของคืนที่ผ่านมา แต่สายตายังคงแข็งกร้าว และรักษาอาการ ไม่เปิดปากพูดคุยกับสื่อมวลชน แม้จะถูกยิงคำถามต่อเนื่องกัน
โดยช่วงเช้าที่ผ่านมายังมีกำนันในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม เดินทางมาเยี่ยมกำนันนก พูดคุยกันผ่านห้องควบคุมตัว สำหรับ “กำนันนก” เป็นกำนันตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม ได้ประมาณ 2 ปี หลังจากที่อยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และลงมาสมัครเป็นกำนัน เนื่องจากกำนันคนเดิมเสียชีวิตลง
ส่วนความคืบหน้าจุดที่ตำรวจจับตาย “นายหน่อง” หรือนายธนัญชัย มือปืนกระหน่ำยิงสารวัตรตำรวจทางหลวงเสียชีวิตและบาดเจ็บ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ขณะนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ลงติดตามคดีตั้งแต่เมื่อวานนี้อยู่ในพื้นที่ เป็นขั้นตอนของการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ และร้อยเวรท้องที่ รวมทั้งเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ อย่างละเอียด
สำนักข่าวไทย เปิดแผนผังคืนงานเลี้ยง ในบ้านกำนันนก โดยช่วงที่ “นายหน่อง” มือปืนเดินอุกอาจเข้าไปจ่อยิง ระยะเผาขน พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรตำรวจทางหลวง เสียชีวิต พบว่า โต๊ะที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นโต๊จีนทรงกลม มีนายตำรวจยศพันตำรวจเอก ทั้งในพื้นที่และจากกรุงเทพฯ นั่งอยู่ แต่เมื่อเกิดเหตุ ทุกคนกลับแยกย้าย หรือแค่ช่วยนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ไม่มีใครควบคุมตัว “นายหน่อง” เอาไว้
ส่วน “กำนันนก” ตอนเกิดเหตุ นั่งที่หัวโต๊ะอีกด้านหนึ่งของงาน แต่ไม่ห่างกันมากกับจุดสังหาร ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดหลังจาก “กำนันนก” ไม่พอใจ พ.ต.ต.ศิวกร จึงแยกออกจากโต๊ะจีนทรงกลมไปนั่งโต๊ะจีนแถวยาว และจากแผนผังจะเห็นว่ามีตำรวจอีกกว่า 21 คน ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่มีใครกล้าควบคุมตัวมือปืน และ “กำนันนก” หลังเกิดเหตุ กลับปล่อยให้ขับรถหลบหนีไปในความมืด
ในส่วนของการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์การสืบสวนสอบสวนของ สภ.เมืองนครปฐม ได้เรียกตัวคนงานและแม่บ้านรวม 7 คน ที่ทำงานอยู่ในบริษัทรับเหมาก่อสร้างของกำนันนก และอยู่ในที่เกิดเหตุมาเก็บดีเอ็นเอที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เก็บในส่วนเนื้อเยื่อของกระพุ้งแก้ม และพิมพ์ลายนิ้วมือ
นอกจากนี้ยังเรียกตำรวจจราจร 3 นายของ สภ.เมืองนครปฐม มาเก็บดีเอ็นเอด้วย เพื่อประกอบสำนวนคดี
ทีมข่าวพยายามสอบถามกลุ่มคนงานที่เดินทางมาในวันนี้ แต่ปฏิเสธตอบคำถาม ตอบรับด้วยการพยักหน้าว่าอยู่ในที่เกิดเหตุ และได้ยินเสียงปืน แต่ตัวเองอยู่ด้านหลัง จึงไม่เห็นเหตุการณ์.-สำนักข่าวไทย