แนะปรับเพดานค่ารถไฟฟ้าตลอดสาย เป็น 50-60 บาท

กรุงเทพฯ 1 ก.ย.-‘สุเมธ’ ทีดีอาร์ไอ ชี้รถไฟฟ้าตลอดสาย 20 บาทต่ำเกินไป แนะปรับเพดานเป็น 50-60 บาท จะช่วยให้เบียดบังงบประมาณรัฐน้อยลง ปรับเส้นทางเชื่อมระหว่างสาย-ผลักดันตั๋วร่วมทำได้


ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ กล่าวถึง นโยบายหาเสียงรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายของรัฐบาลเพื่อไทยที่ใช้หาเสียงเลือกตั้ง ว่า ต้องดูในรายละเอียด ว่าจะมีวิธีดำเนินการอย่างไร ลดค่าตั๋วสายใดบ้าง และจะต้องใช้งบประมาณจากส่วนไหนมาอุดหนุนเอกชนที่ได้รับสัมปทาน เนื่องจากรถไฟฟ้าแต่ละสาย มีสัญญาสัมปทานที่แตกต่างกัน

ค่าโดยสารรถไฟฟ้าขณะนี้เฉลี่ย 1 สถานีอยู่ที่ 15-17 บาท 3-4 สถานีก็อยู่ที่ 30-40 บาท แต่หากเป็นการต่อข้ามสาย ก็อยู่ที่ประมาณ 60-70 บาท เช่น สายสีม่วงและไปต่อสายสีน้ำเงินค่าโดยสารเฉลี่ยประมาณ 70 บาท เนื่องจากรถไฟฟ้าแต่ละสายมีสัญญาเดิมอยู่ และเป็นการพัฒนาโครงการคนละห้วงเวลาและภายใต้เงื่อนไขคนละรูปแบบ ซึ่งบางสายเอกชนลงทุนเองทั้งหมด ขณะที่บางสายรัฐบาลลงทุนงานโยธาให้และเอกชนลงทุนงานระบบ หรือบางสายรัฐลงทุนเองและจ้างเอกชนเดินรถ จึงทำให้รถไฟฟ้าต้องจ่ายค่าโดยสารหลายต่อและแพงอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หากปรับเหลือ 20 บาท เงินที่หาย 50 บาท รัฐก็จะต้องอุดหนุน และตำถามคือจะเอางบประมาณส่วนไหนมาอุดหนุน


เมื่อดูที่โครงสร้างค่าโดยสารปัจจุบัน และจำนวนผู้โดยสาร ตัวอย่างเช่น รถไฟฟ้าค่ายรฟม. ประกอบด้วย MRT สายสีน้ำเงิน สายสีเหลืองมีผู้ใช้บริการ ประมาณ 4 แสนคนต่อวัน หากคิดค่าโดยสารเฉลี่ย 35-36 บาท จะทำให้รัฐต้องจ่ายเงินอุดหนุนมากถึง 1,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนรถไฟฟ้า BTS คาดว่าต้องอุดหนุนไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี  

ส่วนประเด็นการขยายสัญญาสัมปทาน ซึ่งเป็นการแก้ไขสัญญาจะต้องใช้เวลาเยอะพอสมควร เพราะต้องคุยและต้องมีการพิจารณาจากหลายฝ่าย ดังนั้นหากขยายสัมปทานก็จะยังไม่ได้เห็นการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าในช่วง 2 ปีนี้ 

ดร.สุเมธ  เสนอรัฐบาลปรับโครงสร้างเพดานราคาค่าโดยสารสูงสุด แม้จะเปลี่ยนกี่สายก็ตาม ซึ่งอาจจะไม่ใช่ 20 บาทเพราะ 20 บาทต้องใช้เงินอุดหนุนเยอะเป็นภาระงบประมาณรัฐ แต่อาจเป็น 50 หรือ 60 บาท หากทำได้ก็จะช่วยบรรเทาภาระประชาชนที่ต้องเดินทางโดยเปลี่ยนสายรถไฟฟ้า เพราะปัจจุบันหากต้องเดินทางโดยเปลี่ยน 3 สาย ต้องจ่ายค่าโดยสารไม่ต่ำกว่า 100 บาท และควรปรับโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมระหว่างระไฟฟ้าแต่ละสายให้สะดวกกว่านี้ ประชาชนไม่ต้องลำบากเดินไกล ตากแดดตากฝน อีกทั้งควรปรับเปลี่ยนรูปแบบตั๋วให้เป็นตั๋วร่วม ใบเดียวสามารถใช้ร่วมกันได้ทุกสาย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ