กรุงเทพฯ 18 ส.ค.-BAM เร่งประมูลหนี้ นำมาบริหารเพิ่มกว่า 70,000 ล้านบาท ภายในปีนี้ หวังดันผลเรียกเก็บทั้งปีเข้าเป้า 17,800 ล้านบาท ส่วนการลงทุนซื้อทรัพย์โตสูงถึง 3 เท่า แนะรัฐบาลใหม่ เร่งเคลียร์หนี้ครัวเรือน
นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 ได้บริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) ในครึ่งปีแรก BAM ได้เร่งประนอมหนี้ ผ่านโครงการช่วยเหลือลูกหนี้หลายโครงการ เช่น โครงการสุขใจได้บ้านคืน โครงการ BAM ช่วยฟื้นคืนธุรกิจ และโครงการ BAM ช่วยลดเพื่อปลดหนี้เกษตรกร รวมทั้งเร่งการติดต่อลูกหนี้ และเร่งกระบวนการขายทอดตลาด เช่น การขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกัน การร่วมมือกับกรมบังคับคดีจัดมหกรรมขายทอดตลาด เป็นต้น
BAM ยังได้ช่วยเหลือลูกหนี้ที่เปรียบเสมือนฮีโร่ของสังคมไทย กลุ่มบุคคลมาแก้ไขปัญหาในช่วงที่เกิดโรคระบาดโควิด-19 และสาธารณภัยต่างๆ ทั้งกลุ่มแพทย์ พยาบาล ตำรวจ ทหาร ครู และ อสม. ภายใต้โครงการ BAM for Thai Heros ในช่วงครึ่งปีแรก ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ 82 ราย ยอดประนอมหนี้ 131 ล้านบาท และยังได้เตรียมให้สิทธิพิเศษสำหรับฮีโร่ดังกล่าวที่ซื้อทรัพย์สินรอการขายของ BAM อีกด้วย
“BAM มีความเป็นห่วง ภาระหนี้ครัวเรือนสูงถึง 16 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 90.06 ของจีดีพี ที่เป็นห่วง คือ คนรุ่นใหม่ เพิ่งจบการศึกษา เมื่อได้งานจะซื้อทรัพย์สิน คอนโดฯ รถยนต์ เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี ยอดหนี้เสียเพิ่มสูงขึ้น พ่อ แม่ เอาบ้าน ทรัพย์สิน ไปค้ำประกันให้ ต้องถูกยึด ขายทอดตลาด สร้างความเดือดร้อนไปถึงพ่อ แม่ ปัญหาดังกล่าวเริ่มรุนแรง รอรัฐบาลใหม่ หามาตรการมาช่วยเหลือ” นายบัณฑิต กล่าว
ขณะที่การบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA BAM ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง โดยการออกบูธและจัดแคมเปญต่าง ๆ เพื่อสร้างยอดเสนอซื้อ การจัดการทรัพย์ให้พร้อมขาย (Renovate) การจำหน่ายทรัพย์ให้นักลงทุนรายย่อย ตลอดจนการกำหนดทรัพย์ราคาพิเศษ และการเพิ่มฐานลูกค้าผ่อนชำระอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 24 ปีที่ผ่านมา BAM ได้ทำหน้าที่เสมือนแก้มลิงที่ช่วยรองรับหนี้เสียของสถาบันการเงิน นำมาบริหารจัดการและแก้ไขให้กลายเป็นหนี้ดีกลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจ
BAM ทำหน้าที่ฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์มือสองที่เป็นทรัพย์สินรอการขายของบริษัทฯ ให้มีมูลค่าเพิ่มและเป็นที่ต้องการของตลาด ได้ข้อยุติในการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 146,121 ราย มูลหนี้ 466,871 ล้านบาท จำหน่ายทรัพย์ไปแล้ว 49,216 รายการ ราคาประเมิน 107,319 ล้านบาท ปัจจุบัน BAM มี NPL อยู่ในความดูแล คิดเป็นภาระหนี้ 481,578 ล้านบาท และ NPA มูลค่าราคาประเมิน 69,275 ล้านบาท สำหรับผลประกอบการโดยรวมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ มีผลเรียกเก็บ 7,357 ล้านบาท ซึ่งไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ มีผลเรียกเก็บ 4,127 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ที่มีผลเรียกเก็บ 3,230 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28% และมีกำไร 425 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 59% จากไตรมาสที่ 1 ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 267 ล้านบาท
สำหรับ กลยุทธ์ในช่วงครึ่งหลังปี 2566 BAM เดินหน้าการบริหารจัดการ NPL หลากหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการ Knock Door การพัฒนาแอพพลิเคชั่น BamGo Digital เพื่อสร้างระบบการให้บริการประนอมหนี้ออนไลน์ (E-TDR) คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ภายในปลายปี 2566 พร้อมทั้ง การบริหารจัดการ Clean Loan เพื่อสร้างผลเรียกเก็บได้โดยเร็ว ส่วนการบริหารจัดการ NPA นั้น BAM ได้ทำการคัดทรัพย์ราคาพิเศษกว่า 10,000 รายการ เพื่อจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดจำหน่ายทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นโครงการครบเครื่องเรื่องบ้าน by BAM โครงการ BAM for Thai Heroes และเตรียมจัดมหกรรมจำหน่ายทรัพย์ในโอกาส BAM ก้าวสู่ปีที่ 25 ในช่วงปลายปีนี้ พร้อมทั้ง ยังแสวงหาโอกาสในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าทรัพย์สินรอการขาย และการปรับรูปแบบธุรกิจ ซึ่งจะช่วยทำให้ BAM สามารถสร้างผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 17,800 ล้านบาท
นายสันธิษณ์ วัฒนกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทำหน้าที่ผู้บริหารสูงสุดทางด้านการเงิน (CFO) เปิดเผยว่า แผนการรับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเพื่อขยายพอร์ตในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 BAM ได้เข้าประมูลซื้อหนี้ NPL มาบริหารจัดการ คิดเป็นภาระหนี้ (เงินต้นบวกดอกเบี้ย) รวม 22,408 ล้านบาท มีการเติบโตสูงถึร้อยละ 296 หรือประมาณ 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันกับปี 2565 ที่มีการซื้อทรัพย์มาบริหาร 5,658 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าสถาบันการเงินมีการทยอยนำ NPL ออกมาประมูลขายในปริมาณมากอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยอยู่ระหว่างรอผลการประมูลและการทำ Due Diligence คิดเป็นภาระหนี้ 71,203 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานภาพรวม NPLในระบบสถาบันการเงิน ณ ไตรมาสที่ 1 มีจำนวน 497,952 ล้านบาท คิดเป็น 2.67% ของสินเชื่อรวมในระบบสถาบันการเงิน จึงเป็นโอกาสที่ BAM จะเข้าประมูลซื้อ NPL เข้ามาบริหารจัดการเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย