การรถไฟฯ แจ้งความเอาผิดผู้ขโมยตัดสายไฟ

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – การรถไฟฯ ปรับปรุงระบบไฟส่องสว่างถนนกำแพงเพชร 6 สามารถใช้งานได้เป็นปกติแล้ว พร้อมแจ้งความเอาผิด หลังพบสาเหตุเกิดจากการขโมยตัดสายไฟมากกว่า 20 ครั้ง


นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้รับร้องเรียนจากประชาชนถึงปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างของถนนกำแพงเพชร 6 ไม่ทำงานในบางช่วง จนกระทบต่อความสะดวก และความปลอดภัยของประชาชนผู้สัญจรไปมานั้น ซึ่งหลังรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขโดยทันที ซึ่งจากการตรวจสอบพบปัญหาเกิดจากการลักลอบตัดสายไฟหลายจุดบริเวณถนนกำแพงเพชร 6 จนทำให้ระบบไฟไม่ทำงาน และมีแสงสว่างไม่เพียงพอ ดังนั้น การรถไฟฯ จึงได้เร่งแก้ไขด้วยการเดินสายเมนไฟฟ้าใหม่ ตั้งแต่สี่แยกเทอดดำริ จนถึงแยกวัดเสมียนนารีจนสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง สน.ประชาชื่น และ สน.ดอนเมือง ให้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน มีการลักลอบตัดสายไฟบนถนนกำแพงเพชรมากกว่า 20 ครั้ง และจากที่การรถไฟฯ ได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ ลาดตระเวนตรวจดูแลตามจุดพื้นที่เสี่ยงต่อการลักขโมยอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถควบคุมตัวผู้กระทำผิด ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง ดำเนินคดีไปได้แล้วถึง 5 ครั้งด้วย


นายเอกรัชกล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการดูแลป้องกันปัญหาระยะยาว การรถไฟฯ ได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจในการช่วยสอดส่องดูแลพื้นที่เสี่ยง และขอให้ดำเนินการคดีกับผู้กระทำความผิดโดยเด็ดขาด เพราะนอกจากเป็นการทำให้ทรัพย์สินราชการได้รับความเสียหายแล้ว ยังก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชนผู้ใช้ทางสัญจรไปมาด้วย นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้หารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมส่งมอบถนนกำแพงเพชร 6 พร้อมระบบสาธารณูปโภคให้กับกรุงเทพมหานคร ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาต่อไปด้วย

“การรถไฟฯ ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ช่วยกันสอดส่องดูแลทรัพย์สินของทางราชการ หากพบเห็นเหตุผิดปกติ โปรดแจ้งที่ Call Center การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร 1690 หรือโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ขอเตือนว่า พฤติกรรมลักขโมยสายไฟ รวมถึง ครอบครอง ซื้อขายอุปกรณ์ส่วนควบ เครื่องยึดเหนี่ยวทางรถไฟ อุปกรณ์ต่างๆ ของการรถไฟฯ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมาย ฐานลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้รับซื้อทรัพย์สินของทางราชการต่างๆ ก็มีความผิด ฐานรับของโจร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย

ท้ายนี้ การรถไฟฯ ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นของประชาชน โดยพร้อมน้อมรับทุกคำติชม เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ สร้างความพึงพอใจต่อประชาชนผู้ใช้บริการสูงสุดต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ