กทม. 27 มิ.ย.-ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับยกฟ้อง”มือปืนป๊อปคอร์น”ยิงถล่มแยกหลักสี่ เมื่อปี 57 ชี้ไม่มีพยานยืนยัน ด้านลูกสาวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ น้ำตาไหลเสียใจกับคำพิพากษา
ศาลอาญา รัชดาฯ นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือท็อป อายุ 27 ปี มือปืนป๊อปคอร์น ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต, นำอาวุธออกนอกเคหสถานภายในพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จากเหตุการณ์ยิงถล่มปะทะกลุ่มคนเสื้อแดงที่แยกหลักสี่ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 ก่อนถูกตำรวจจับกุมได้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 37 ปี 4 เดือน วันนี้ (27 มิ.ย.) ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ชายชุดดำที่สวมหมวกไหมพรม ตามหลักฐานภาพถ่ายจากเว็บไซต์และวิดีโอของพนักงานสอบสวน ไม่อาจเชื่อได้ว่าบุคคลตามภาพถ่ายใช่จำเลย เมื่อนำไปเปรียบเทียบรูปร่างก็ไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นคนเดียวกัน อีกทั้งพยานเห็นเหตุการณ์มีจำนวนมาก แต่ไม่มีใครยืนยัน แม้จำเลยจะรับสารภาพแต่ก็มีข้อพิรุธ พิพากษากลับยกฟ้อง โดยยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย แต่ให้คุมขังไว้ระหว่างฎีกา
ด้านนางสาวเอื้องฟ้า แซ่ลิ้ว ลูกสาวของนายอะแกว แซ่ลิ้ว ที่ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์ กล่าวทั้งน้ำตาหลังฟังคำพิพากษาว่า รู้สึกเสียใจ เพราะไม่คิดว่าศาลจะพิพากษายกฟ้อง จะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด ยืนยันว่าในวันเกิดเหตุบิดาไม่ได้ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มใด แค่มาหาตนซึ่งทำงานที่ห้างไอที สแควร์ตามปกติ แต่โชคร้ายโดนลูกหลง จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมกับกระบวนการยุติธรรม.-สำนักข่าวไทย