รัฐสภา 10 ส.ค. – “พิธา” ปฏิเสธให้ความเห็นเรื่องโหวตนายกฯ รอคำสั่งศาล รธน. พูดเป็นนัยก้าวไกลอาจไม่ได้เป็นฝ่ายค้านก็ได้ มั่นใจรักษาเก้าอี้สส.ระยอง ไว้ได้
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปฏิเสธให้ความเห็นการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปหากรัฐสภาไม่เห็นชอบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการแสดงความคิดเห็นที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานพรรคเพื่อไทย อยากให้พรรคเพื่อไทยได้ทำงานอย่างเต็มที่ หากวันโหวตผลออกมาเป็นอย่างไรก็พร้อมให้ความคิดเห็นในวันดังกล่าว เพราะหากการพูดอะไรออกไปก่อน เมื่อมีน้ำหนักก็ต้องระมัดระวัง และชี้แจงว่าการที่ สส.พรรคก้าวไกล สอบถามความเห็นเกี่ยวกับการโหวตนายกรัฐมนตรีจากประชาชนในโซเชียลมีเดีย ไม่ได้เป็นการฟ้องประชาชน
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีหากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สามารถเสนอชื่อนายพิธาในรอบที่ 2 ได้ว่า ต้องรอดูคำสั่งศาลก่อน แต่ในข้อเท็จจริงตามข้อบังคับที่ 41 หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงสามารถเสนอชื่อตนได้ เช่น หากเสนอชื่อประกบคู่แข่งขันกันระหว่างตนกับคนอื่นไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งศาล สามารถต่อสู้กันได้เลย เชื่อว่าโอกาสที่จะเสนอชื่อยังมีอยู่ ซึ่งต้องดูเวลาที่เหมาะสมและในขณะนี้ จึงทำหน้าที่ได้เพียงเป็นกำลังใจให้กับ สส.ของพรรคก้าวไกลที่ทำงานอยู่ พร้อมกับเตรียมลงพื้นที่หาเสียงการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดระยอง
“เมื่อตีความตามตัวอักษร หากมีคู่แข่งสามารถเสนอชื่อตนได้ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ขณะเดียวกันต้องให้เกียรติกับพรรคเพื่อไทยด้วยที่พรรคก้าวไกลส่งไม้ต่อไปแล้ว แต่เป็นคนละเรื่องที่จะโหวตหรือไม่โหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งการพบกับแกนนำพรรคเพื่อไทยเมื่อวาน (9 ส.ค.) เพียงรับฟังความเห็นเท่านั้น” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว
นายพิธา กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งซ่อมเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดระยอง พรรคจะส่งนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ รักษาเก้าอี้ สส. ซึ่งนายพงศธรเคยทำงานมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ มีความคุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดี เชื่อมั่นว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพรรค ส่วนถ้านายสาธิต ปิตุเตชะ จากพรรคประชาธิปัตย์ ลงแข่งขันด้วยมองว่าก็ดี เพราะการเลือกตั้งจะคึกคักอีกครั้ง และจังหวัดระยองเป็นพื้นที่หนึ่งในดวงใจ ซึ่งที่ผ่านมาเสียงตอบรับจากการลงพื้นที่ดีมาก
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นเชิงกฎหมายว่าพรรคก้าวไกลจะต้องเลือกระหว่างตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านและตำแหน่งรองประธานสภาฯ ว่าตอนนี้พรรคมีทางออกที่เหมาะสมแล้ว หากถึงวันต้องเลือก และว่า “พรรคก้าวไกลอาจจะไม่ได้เป็นพรรคฝ่ายค้านก็ได้ ใครจะรู้”
นายพิธา กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ได้เข้ามาที่รัฐสภานับจากวันที่ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่วันที่ 19 กรกฎาคม ต้องการมากินของโปรดและอาหารที่ชอบ ก่อนเดินไปซื้อน้ำมะพร้าวกับไอติมกะทิมหาชัย ซึ่งปกติจะใส่ท็อปปิ้งข้าวเหนียวแต่หมด จึงใส่ลอดช่องแทน โดยออกตัวว่าไม่มีนัยทางการเมืองที่หมายถึงจะลอดช่องใดหรือไม่.-สำนักข่าวไทย