กรุงเทพฯ 8 ส.ค.-ปตท.สผ.เผยโครงการโมซัมบิกจำหน่ายแอลเอ็นจีตามเป้าหมายเดิมปี 2027 ส่วน ครึ่งหลังของปีนี้คาดปริมาณ ปริมาณการขายปิโตรเลียมดีขึ้นกว่า ครึ่งแรกของปี จะอยู่ที่ 470,000- 480,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน
นางอรชร อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) (ปตท.สผ.) และนายธนัตถ์ ธำรงศักดิ์สุวิทย์ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP เปิดเผยในงาน Oppday Q2/2023 ว่า โครงการโมซัมบิก แอเรีย ขณะนี้บริษัท TOTAL E&P Mozambique Area 1 Limitada ในฐานะผู้ดำเนินการ (Operator)แจ้งว่าสถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นตามลำดับและ เตรียมกลับเข้ามาดำเนินการก่อสร้างต่ออีกครั้งภายในปีนี้ หรือต้นปีหน้า และยังคงเป้าหมายผลิตจำหน่าย ก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ แอลเอ็นจี คาร์โก้แรก ปี ค.ศ.2027 หรือปี พ.ศ.2570
ทั้งนี้ โครงการ Mozambique LNG มีบริษัท PTTEP Mozambique Area 1 Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ถือสัดส่วนการลงทุนในโครงการร้อยละ 8.5 มีเป้าหมายในระยะแรกในการผลิต LNG รวม 12.88 ล้านตันต่อปีให้แก่ลูกค้าตามสัญญาซื้อขายก๊าซฯ LNG ในระยะยาว โดยก่อนหน้านี้ ประกาศหยุดการดำเนินการก่อสร้างด้วยเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) เมื่อเดือนเมษายน 2564 จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นที่เมือง Palma ประเทศโมซัมบิก ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการพัฒนาและก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว Mozambique LNG ประมาณ 20 กิโลเมตร
สำหรับแนวโน้ม ปริมาณการขายปิโตรเลียม ช่วงครึ่งหลังปี 66 จะเติบโตขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หรืออยู่ที่470,000- 480,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากโครงการทั้งในและต่างประเทศ โดยในไตรมาส 3 ปีนี้คาดว่าปริมาณการขายจะอยู่ที่ 470,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน และเฉลี่ยทั้งปีนี้ อยู่ที่ 464,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยหลักมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซฯจากแหล่งเอราวัณ(G1/61) จากเดิม 200 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เป็น 400 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน และจะเพิ่มเป็น 800 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ตามเงื่อนไขสัญญาแบ่งปันผลผลิต(PSC) ในช่วงเดือนเม.ย. 2567
รวมถึงการเร่งเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซฯจากแหล่งอื่นๆ เช่น แหล่งบงกช(G2/61) ที่ปัจจุบันมีกำลังผลิตอยู่ที่ 840 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน สูงกว่าเงื่อนไขสัญญาPSC กำหนดปริมาณการผลิตขั้นต่ำอยู่ที่ 700 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน และคาดว่า จะรักษาอัตราการผลิตไม่ต่ำกว่า 800 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันไปถึงสิ้นปีนี้ และยังเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซฯจากแหล่งอาทิตย์ ที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 340 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันโดยทั้ง 3 โครงการนี้ มีกำลังการผลิตก๊าซฯจากอ่าวไทย รวมกันกว่า 1,500 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ช่วยสร้างความมั่นคงและลดต้นทุนค่าพลังงานให้กับประชาชน
ส่วนแนวโน้มราคาก๊าซฯ คาดว่า ไตรมาส 3ปีนี้ จะอยู่ที่ 5.8 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู และทั้งปีเฉลี่ยอยู่ที่ 6 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู ขณะที่ต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) เฉลี่ยทั้งปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ในกรอบ 27-28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และ EBITDA Margin จะอยู่ที่ระดับ 70-75% ตามที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ระดับกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์
ความคืบหน้าการการลงทุนธุรกิจใหม่ Beyond E&P ได้แก่ โครงการผลิตกรีนไฮโดรเจน (Green Hydrogen Project) ซึ่งบริษัท ฟิวเจอร์เทค เอนเนอร์ยี่ เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่ม ปตท.สผ. ร่วมกับกลุ่มผู้ร่วมทุนได้ชนะการประมูลแปลงสัมปทานโครงการผลิตกรีนไฮโดรเจน ในประเทศโอมาน และลงนามสัญญาพัฒนาโครงการและสัญญาเช่าแปลงสัมปทานกับบริษัท Hydrogen Oman SPC (Hydrom) เพื่อเข้ารับสิทธิในการพัฒนาโครงการผลิตกรีนไฮโดรเจน ในแปลงสัมปทาน Z1-02 เป็นระยะเวลา 47 ปี ซึ่งกลุ่มผู้ร่วมทุนจะทำการศึกษาความเป็นไปได้(Feasibility study) และการศึกษาเชิงเทคนิค (Technical study) รวมถึงประเมินมูลค่าการลงทุนของโครงการดังกล่าวต่อไป คาดว่าจะเริ่มการผลิตกรีนไฮโดรเจนได้ในปี 2573 ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 2.2 แสนตันต่อปี ด้วยไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแสงอาทิตย์ และลม ขนาดประมาณ 5 กิกะวัตต์ กรีนไฮโดรเจนที่ผลิตได้โดยส่วนใหญ่จะใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกรีนแอมโมเนีย โดยจะผลิตกรีนแอมโมเนียในอัตราประมาณ 1.2 ล้านตันต่อปีและส่งออกไปยังประเทศเกาหลีใต้
นอกจากนี้ ยังมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ตั้งอยู่ในพื้นที่อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร กำลังการผลิตประมาณ9.98 เมกะวัตต์ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสำหรับใช้ในโครงการเอส 1 ขณะนี้โครงการได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.2566 .-สำนักข่าวไทย