ปตท.สผ. เตรียมลงทุนปี 68 อีก 2.61 แสนล้านบาท

กรุงเทพฯ 31 ม.ค.- ปตท.สผ. เตรียมลงทุนปีนี้ 2.61 แสนล้านบาท มุ่งเพิ่มการผลิตและพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในไทย รองรับการใช้พลังงานและเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ เผยปี 2567 ประสบความสำเร็จเพิ่มกำลังผลิตก๊าซฯ G1/61 และขยายการลงทุนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และแอลจีเรีย ตามแผน นำส่งรายได้ให้รัฐเพื่อการพัฒนาประเทศไทยกว่า 50,450 ล้านบาท


นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีความก้าวหน้าสำคัญในการดำเนินธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลมีรายได้รวม 327,415 ล้านบาท (เทียบเท่า 9,273 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.) โดยมีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 488,794 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มกำลังการผลิตปิโตรเลียมของโครงการ G1/61 ขณะที่ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยอยู่ที่ 46.78 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบ ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 78,824 ล้านบาท (เทียบเท่า 2,227 ล้านดอลลาร์ สรอ.)

โดยกำไรสุทธิจากการดำเนินงานดังกล่าว เป็นส่วนสำคัญที่บริษัทจะนำมาใช้ในการพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมจากโครงการต่าง ๆ ตามแผนงานปี 2568 รองรับความต้องการการใช้พลังงานในประเทศต่อไป และคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2567 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ที่ 9.625 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิที่ร้อยละ 49 รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 38,211 ล้านบาท ได้จ่ายสำหรับงวด 6 เดือนแรกไปแล้วในอัตรา 4.50 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ส่วนที่เหลืออีก 5.125 บาทต่อหุ้น จะจ่ายในวันที่ 22 เมษายน 2568 ภายหลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2568 ซึ่งส่วนหนึ่งของเงินปันผลดังกล่าว จะถูกนำส่งให้กระทรวงการคลังผ่านการถือหุ้นในบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ปตท.สผ. เพื่อการพัฒนาประเทศอีกส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน


ในปี 2567 ที่ผ่านมา ปตท.สผ. ได้นำส่งรายได้ให้กับรัฐในรูปของภาษีเงินได้ ค่าภาคหลวง และส่วนแบ่งผลประโยชน์อื่น ๆ จำนวน 50,450 ล้านบาท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาชุมชน การศึกษา และการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐยังได้รับส่วนแบ่งของผลผลิตปิโตรเลียมจากโครงการ G1/61 และ G2/61 ซึ่งอยู่ภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) เป็นรายได้ทางตรงจากการผลิตปิโตรเลียมที่รัฐนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศอีกส่วนหนึ่งด้วย

สำหรับปี 2568 ปตท.สผ. ได้ตั้งประมาณการดำเนินงานปี 2568 ไว้ที่ 261,940 ล้านบาท (เทียบเท่า 7,819 ล้านดอลลาร์ สรอ.) โดยจะมีการรักษาและการเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยจากโครงการ G1/61 โครงการ G2/61 โครงการอาทิตย์ โครงการเอส 1 โครงการคอนแทร็ค 4 และโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเร่งพัฒนากลุ่มโครงการสำรวจในประเทศมาเลเซีย (Malaysia Greenfields) โครงการในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโมซัมบิก ให้สามารถเริ่มการผลิตได้ตามแผน ไปพร้อมกับแผนงานเร่งการสำรวจในประเทศไทย และมาเลเซีย รวมถึงการดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังได้สำรองงบประมาณสำหรับการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เช่น พลังงานลมนอกชายฝั่ง และเชื้อเพลิงไฮโดรเจน เป็นต้น เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ และสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในระยะยาว

ทั้งนี้ปี 2567 ปตท.สผ.สามารถเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยในโครงการ G1/61 (แหล่งเอราวัณ ปลาทอง สตูล และฟูนาน) ขึ้นมาสู่ระดับ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และยังคงรักษากำลังการผลิตของโครงการอย่างต่อเนื่อง สำหรับการขยายการลงทุนในต่างประเทศ ปตท.สผ. ได้เข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 10 ในโครงการสัมปทานกาชา (Ghasha Concession Project) ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยมีแผนจะเริ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติในปี 2568 นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับอนุมัติแผนพัฒนาโครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 เมื่อเดือนกันยายนในปีที่ผ่านมา จากหน่วยงานรัฐของอาบูดาบีแล้ว โดยคาดว่าจะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ในปีนี้


ปตท.สผ. ยังได้เข้าซื้อหุ้นทุน (Share Capital) ในสัดส่วนร้อยละ 34 ในบริษัท E&E Algeria Touat B.V. คาดว่าการซื้อขายจะเสร็จสิ้นในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ ปตท.สผ. ถือสัดส่วนการลงทุนทางอ้อมในโครงการทูอัท (Touat Project) ที่ร้อยละ 22.1 โครงการนี้เป็นโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติบนบกในประเทศแอลจีเรีย มีกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติประมาณ 435 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และจะสามารถเพิ่มรายได้ ปริมาณการขาย และปริมาณสำรองปิโตรเลียมให้กับบริษัทได้ทันทีเมื่อการซื้อขายเสร็จสิ้น

ด้านการขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ปตท.สผ. ได้พัฒนาโครงการ DigitalX ซึ่งเป็นการพัฒนาและประยุกต์ใช้นวัตกรรมดิจิทัล (Digital Solutions) เช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning (ML) ที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลของห่วงโซ่ธุรกิจอย่างครบวงจร เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้ง บริษัทยังได้เริ่มพัฒนาและปรับปรุงระบบฐานข้อมูล (Data Foundation) ให้สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ทั้งองค์กร โดยมีมาตรฐานเดียวกัน พร้อมกับได้พัฒนา X.brain ซึ่งเป็น AI Engine ที่สามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ เพื่อนำมาช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานของบุคลากรให้สำเร็จตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรทุกระดับชั้นภายในองค์กรให้มีความพร้อมและมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพ (Digital Citizens) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านต่างๆ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และลดระยะเวลาการทำงานลงอย่างมีนัยสำคัญ

ในด้านการดำเนินงานเพื่อเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 (Net Zero Greenhouse Gas Emissions by 2050) นั้น ปตท.สผ. สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมตั้งแต่ปี 2563 ได้ประมาณ 4.08 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ผ่านการจัดทำโครงการลดก๊าซเรือนกระจกต่าง ๆ เช่น การนำก๊าซส่วนเกินจากกระบวนการผลิตปิโตรเลียมกลับมาใช้ใหม่ การปรับปรุงกระบวนการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียน และการคัดเลือกโครงการที่มีความเข้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำเข้ามาใน Portfolio เป็นต้น รวมทั้ง ยังได้ร่วมฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่ป่า 200,000 ไร่ ภายในปี 2573 เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์. -511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่ม

วันที่ 6 ปรับแผนใช้เครนยักษ์ยกปูนค้นหา 72 ชีวิต

เข้าสู่วันที่ 6 ทีมงานกู้ซากตึกถล่ม ปรับแผนค้นหา 72 ชีวิต ด้านญาติผู้สูญหายยังคงรอความหวัง บางส่วนจุดธูปปักลงดิน ขอแม่ธรณีเปิดทางช่วยทุกคนรอดชีวิต

นายกฯ เยี่ยมญาติตึกถล่ม

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย

นายกฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย “ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าพึ่งป่วย”

กิจการร่วมค้าซีไอเอส

สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” จ่อยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่

“มนพร” รมช.คมนาคม สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” เตรียมยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่ “สนามบินนราธิวาส” พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้ทิ้งงาน ห้ามรับงานภาครัฐ หลังพบสร้างช้ากว่าแผน 60.76% งานอืดรวม 631 วัน มอบ ทย. ลุยตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ จี้ให้รายงานกลับมาภายใน 3 วัน ยันทุกโปรเจกต์ต้องผ่านมาตรฐาน-การตรวจเช็กจากวิศวกร

จำคุกชาวจีน

ศาลสั่งจำคุก 4 ชาวจีน ขนเอกสาร ตึก สตง.ถล่ม

ศาลพิพากษาจำคุก 4 ชาวจีน เข้าไปขนเอกสาร จากพื้นที่ อาคาร สตง. ถล่ม คนละ 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี