ลุมพินีทาวเวอร์ 1 พ.ย. – นายวิชัย ศรีประเสริฐ อดีตนายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึงกรณีที่เกษตรกรเรียกร้องรัฐบาลช่วยเหลือแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ว่า การที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อนุมัติงบประมาณ 8,600 ล้านบาท ช่วยเหลือชาวนาทั้งค่าเก็บข้าว ค่าปรับปรุง รวมรับเงินตันละ 11,525 บาท เป็นแนวทางที่ถูกต้อง และเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะขณะนี้ราคาข้าวในตลาดโลกตกต่ำโดยเฉพาะในตลาดเอเชียที่เป็นคู่แข่งของไทย ทั้ง เวียดนาม อินเดีย ปากีสถาน เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกมาพร้อมกัน ทำให้ปริมาณข้าวล้นตลาด โดยราคาข้าวขาว 5 % ของไทย เวียดนาม และ อินเดีย อยู่ที่ 350 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จากเดิมราคาข้าวไทยเคยสูงกว่าคู่แข่ง 30-40 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งมั่นใจว่าด้วยคุณภาพและชื่อเสียงข้าวไทยจะทำให้ความต้องการซื้อข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศจะทยอยปรับขึ้นในช่วง 1-2 เดือนนี้ และมีโอกาสที่การส่งออกข้าวไทยปีนี้จะสูงถึง 10 ล้านตันจากเป้าหมายเดิมที่ 9.5 ล้านตัน หรือเฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านตัน จากยอดส่งออกข้าวไทย 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 6.8-6.9 ล้านตัน
นายวิชัย กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันราคาข้าวเปลือกขาวอยู่ที่ 7,100-7,400 บาทต่อตัน เนื่องจากความชื้นสูงและชาวนาเกี่ยวข้าวพร้อมกัน ทำให้ไม่มีพื้นที่เก็บ ไม่มีพื้นที่ตากข้าว และ ไม่มีโรงอบ และเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีผลผลิตข้าวออกมาอีก 11 ล้านตัน ประกอบกับยังมีข้าวเหลือในสตอกเก่าอีก 8 ล้านตัน ทำให้ผลผลิตล้นตลาด เกษตรกรจึงต้องรีบขายข้าว อย่างไรก็ตาม หากศึกษาสถิติของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พบว่าราคาข้าว 7,100-7,400 บาทต่อตัน ยังสูงกว่าราคาข้าวปี 2557 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ซึ่งราคาข้าวต่ำสุดอยู่ที่ 6,982 บาทต่อตัน และสูงสุดที่ 8,839 บาทต่อตัน ส่งผลให้ปีดังกล่าวมีข้าวเหลือในสตอกสูงถึง 18 ล้านตัน ส่วนปี 2551 เป็นปีที่ราคาข้าวดีที่สุด เพราะเป็นไปตามกลไกตลาด ราคาสูงสุดอยู่ที่ 13,259 บาทต่อตัน ดังนั้น ขอให้เกษตรกรเข้าใจรัฐบาลและควรพิจารณาว่าราคาข้าวที่เหมาะสมควรเป็นราคาขายข้าวได้หมดทุกปี ไม่ใช่ราคาสูงแต่เหลือข้าวในสตอกจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย