ตรวจเข้มลักลอบนำเข้า-ขนย้ายสินค้าเกษตรต่างประเทศ

นนทบุรี 28 ก.ค. – รองอธิบดีกรมการค้าภายใน สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ บูรณาการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจเข้มการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรที่นำเข้าจากต่างประเทศ ย้ำหากพบว่ามีการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่อธิบดีกรมการค้าภายในได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ บูรณาการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจเข้มการลักลอบการนำเข้าและขนย้ายสินค้าเกษตรที่นำเข้าจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่องใกล้ชิด ตามเส้นทางที่คาดว่าจะมีการขนย้าย โดยเฉพาะจากสถานที่ต้นทางท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และท่าเรือกรุงเทพ มายังสถานที่ปลายทางบริเวณตลาดไท และตลาดไอยรา จังหวัดปทุมธานี ที่เป็นแหล่งรวบรวมสินค้าเกษตรที่สำคัญ เพื่อเป็นการป้องปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร

อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตสินค้าเกษตรภายในประเทศ และจากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ ณ จุดตรวจสอบการขนย้ายสินค้าเกษตร บริเวณตลาดไท จังหวัดปทุมธานี ไม่พบการกระทำความผิด


ทั้งนี้ จากการดำเนินการตามนโยบายกำกับดูแลการลักลอบการขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างเข้มงวด ในช่วงที่ผ่านมามีการจับกุมและดำเนินคดีผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนกฎหมายขนย้ายกระเทียมที่นำเข้าจากต่างประเทศเข้ามาในพื้นที่ควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 2 ราย พบลักลอบขนย้ายกว่า 53 ตัน รวมมูลค่ากว่า 4.9 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าติดตามตรวจสอบการนำเข้าและการขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด หากพบว่ามีการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542

ทั้งนี้ หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการเอาเปรียบเกษตรกร สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก