พระนครศรีอยุธยา 12 ก.ค. – วันนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นประธานในพิธีเปิดระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ณ กลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ ประเทศไทย โรงงานบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
บริษัท มินีแบมิตซูมิ จำกัด ก่อตั้งขึ้นแห่งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2494 ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตตลับลูกปืนขนาดเล็ก (Miniature Ball Bearing) และได้ขยายกิจการโดยเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 จากการขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีของกลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ (ประเทศไทย) ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มบริษัทฯ ปัจจุบันมีโรงงานผลิตรวม 10 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 5 แห่ง จังหวัดลพบุรี จำนวน 1 แห่ง จังหวัดปทุมธานี จำนวน 1 แห่ง จังหวัดชลบุรี จำนวน 2 แห่ง และจังหวัดระยอง จำนวน 1 แห่ง เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นกว่าแสนล้านบาท และมีพนักงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 33,000 คน
โครงการผลิตผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในกิจการผลิตชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนสำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์ เครื่องจักร หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานพาหนะและชิ้นส่วนสำหรับอากาศยาน โดยได้รับสิทธิและประโยชน์ต่างๆ ตามกฎหมายส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย นอกเหนือจากการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพแล้ว กลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ ให้ความสำคัญต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย
กลุ่มบริษัทฯ ได้ดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักปรัชญาการบริหารของบริษัท (Corporate Philosophy) และความมุ่งมั่น 5 ประการ (The Five Principle) ซึ่งครอบคลุมทั้งการผลิต การพัฒนา ออกแบบผลิตภัณฑ์ การจัดหา และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม รวมถึงการดำเนินมาตรการต่างๆ ในการป้องกันโลกร้อน (Preventing Global Warming)
ในโอกาสนี้ กลุ่มบริษัทฯ จึงได้มีนโยบายในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นฐานการผลิตหลักที่สำคัญ และใหญ่ที่สุดของกลุ่มบริษัทฯ ประกอบกับรัฐบาลไทย มีนโยบายส่งเสริมการประหยัดพลังงาน และการใช้พลังงานทดแทน โดยผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI โดยกลุ่มบริษัทฯได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จาก BOI และจากการที่ BOI มีนโยบายขยายมาตรการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนต่อไปอีกนั้น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อนโยบายและการใช้พลังงานทดแทนในภาพรวมของประเทศไทยอย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ณ โรงงานในประเทศไทย
โดยเมื่อปี พ.ศ.2563 กลุ่มบริษัทฯ ได้ติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop) ด้วยมูลค่าการลงทุน 170 ล้านบาท ที่โรงงานบางปะอิน และโรงงานลพบุรี มีกำลังการผลิตขนาด 5 MW และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 4,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
ปี พ.ศ. 2564 กลุ่มบริษัทฯ ได้ดำเนินการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop) และโซลาร์ฟาร์ม (Solar High Rise Mounting) ภายในพื้นที่บ่อรวมรวมน้ำฝนของโรงงานบางปะอินเพิ่มเติม ด้วยมูลค่าการลงทุน 273 ล้านบาท โดยมีกำลังการผลิตขนาด 11.5 เมกกะวัตต์ และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 9,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
การดำเนินโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งในการตอบสนองนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นต้นแบบในการติดตั้ง และพัฒนา ในโรงงานอื่นๆ ทั่วโลก
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และทุ่มเทให้กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลกอย่างยั่งยืน และฐานการผลิตในประเทศไทยจะยังคงเป็นฐานการผลิตหลักที่สำคัญ และมีแผนที่จะขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป.