ศาลอาญา 11 ก.ค.-ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง “หมอวรงค์” ไม่หมิ่นประมาท “ช่อ” คดีเงินบริจาคโครงการเมย์เดย์ ชี้จำเลยแสดงความเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม ที่ประชาชนย่อมกระทำได้
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เป็นโจทก์ฟ้อง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีที่ นพ.วรงค์ เปิดเผยข้อมูลว่า คณะก้าวหน้ามีการบิดเบือนเงินบริจาคโครงการเมย์เดย์ ที่จัดระดมทุนช่วยเหลือนักดนตรีช่วงโควิด-19
จำเลยให้การปฏิเสธคดีนี้ ศาลอาญาพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่าจำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยของประชาชนที่ย่อมกระทำได้ จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง แต่ทั้งนี้โจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
ต่อมาศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุธรณ์ โดยระบุว่า น.ส.พรรณิการ์ เป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาชนรู้จัก การที่ นพ.วรงค์ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวถือเป็นการแสดงความเห็นสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็ยวิสัยของประชาชนที่ย่อมทำได้ อีกทั้งรายชื่อ 11 คน ที่รับเงินบริจาคไปตามที่ นพ.วรงค์ กล่าวอ้าง ตรวจสอบแล้วไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร จึงไม่มีตัวตน ศาลจึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ที่พิพากษายกฟ้อง
นพ.วรงค์ กล่าวว่า การฟ้องดังกล่าวเป็นการกระทำของกลุ่มที่มีแนวคิดแก้ไขมาตรา 112 เป็นการฟ้องเพื่อปิดปากตนที่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่าง ๆ จึงอยากเรียกร้องให้จากนี้ต่อไปกลุ่มดังกล่าวออกมาต่อสู้กันด้วยอุดมการณ์ทางความคิดอย่างเป็นธรรม ส่วนตัวถูกกลุ่มดังกล่าวฟ้องมา 3 คดี ได้แก่คดีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนางสาวพรรณิการ์ แกนนำคณะก้าวหน้า
คดีของนายพิธา และนางสาวพรรณิการ์ ยกฟ้องแล้ว เหลือเพียงคดีของนายธนาธร ที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดี ฉะนั้นขอให้นายธนาธร ถอนฟ้องคดีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เพราะตนคิดว่าอย่างไรก็แพ้คดี. -สำนักข่าวไทย