สภาเห็นชอบ วันนอร์ นั่งประธาน ไร้คู่แข่ง

รัฐสภา 4 ก.ค.- สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” นั่งประธานสภาแบบไร้คู่แข่ง ยันทำหน้าที่เป็นกลาง น้อมนำพระราชดำรัสในหลวงเป็นแนวทางปฏิบัติ


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดแรกเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรวันนี้เริ่มขึ้น เมื่อเวลา 10.05 น โดยพลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อจากพรรคเพื่อไทย เป็นประธานชั่วคราว นำส.ส ทุกคน ปฏิญาณตนเพื่อปฏิบัติหน้าที่

จากนั้นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นเสนอชื่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร เพียงชื่อเดียว โดยไม่มีผู้เสนอชื่ออื่นมาแข่งขัน ตามข้อบังคับจึงกำหนดให้นายวันมูหะมัดนอร์ได้รับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่ต้องมีการลงมติ


วันมูหะมัดนอร์ แสดงวิสัยทัศน์ โดยระบุว่า ขอขอบคุณสมาชิกที่เสนอชื่อตนทำหน้าที่ประธานสภาในครั้งนี้ และถ้าได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ ขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางทางการเมือง และจะน้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานให้กับสมาชิกรัฐสภาสมัยที่ 26 เมื่อวานนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติของพวกเราต่อไป ยืนยันจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใสสุจริตติดตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและข้อบังคับของสภาทุกประการ

โดยจะกำหนดแนวทางร่วมกันกับผู้ที่จะทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาทั้ง 2 คนในการพิจารณาร่างกฎหมาย ญัตติกระทู้ถาม อย่างเป็นระบบ เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ แล้วเพื่อประโยชน์ของประชาชน

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า จะให้ความสำคัญกับการปฏิบัติงานของคณะกรรมาธิการทุกคณะในการแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อน ประชาชนของเราในทุกกรณี และจะร่วมกับพวกเราเพื่อดำเนินการนโยบายทางด้านการต่างประเทศของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยมุ่งเน้นความร่วมมือในงานระบอบรัฐสภาเพื่อประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพของฝ่ายนิติบัญญัติ  พร้อมกันนี้ จะทำหน้าที่ในการกำกับดูแลงานของสถาบันพระปกเกล้าให้มีประสิทธิภาพ ในการส่งเสริมงานของฝ่ายนิติบัญญัติ รวมทั้งจะสนับสนุนให้สถานีโทรทัศน์ของรัฐสภา สถานีวิทยุของรัฐสภา ไปสถานีของประชาชน เพื่อจะส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยในทุกภาคส่วน ให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนตลอดไป


จากนั้นประธานชั่วคราวได้ประกาศว่า สภาผู้แทนราษฎร รับรองให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่ามกลางเสียงปรบมือแสดงความยินดีของสมาชิก

จากนั้น นายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเสนอชื่อนายปดิพัทธ์ สันติธาดา ส.ส.พิษณุโลกพรรคก้าวไกล  เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 1 ขณะที่นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.สราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอชื่อนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส. บัญชีราย พรรครวมไทยสร้างชาติ ชื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 1 ซึ่งจะต้องลงคะแนนลับ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง