กรมสอบสวนคดีพิเศษ 12 ธ.ค.-รองโฆษกDSI แถลงโต้โฆษกวัดพระธรรมกาย ให้ฝ่ายกม.พิจารณาเตรียมฟ้องดำเนินคดี ยืนยันจนท.ไม่กลั่นแกล้ง ขอพระธัมมชโยมอบตัว
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แถลงตอบโต้นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษย์ยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน วานนี้(11 ธ.ค.) 9 ข้อ คือ 1. นายองอาจ ระบุว่าการดำเนินการของพนักงานสอบสวนในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และคดีอื่นที่เกี่ยวโยงกัน มีความไม่เป็นธรรมหลายประการ เช่น ตั้งข้อหาคณะศิษยานุศิษย์ที่ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อเยียวยาแก่สหกรณ์ฯคลองจั่น ว่ามีความผิดข้อหาเรี่ยไร ซึ่งในความเป็นจริงแล้วกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่เคยดำเนินคดีความผิดฐานเรี่ยไร มีแต่การดำเนินคดีความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้ วัดธรรมกายจึง ต้องชี้แจงว่าได้เงินมาอย่างไรถูกกฎหมายหรือไม่ และในกรณีดังกล่าวร่วมกันกระทำความผิดกับกลุ่มบุคคลอื่นด้วย ซึ่งมีผู้ต้องหารายอื่นได้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว แต่พระธัมมชโยยังไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามหลักสากล
“2. นายองอาจระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ได้ดำเนินคดีพระธัมมชโยใน ข้อหาบุกรุกป่า และข้อหาก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างทับลำรางสาธารณะ ที่สวนป่าหิมวันต์ อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย และที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์ พีซ จังหวัดนครราชสีมา โดยอ้างอิงความเห็นของนายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของศาล ทั้งที่นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน ซึ่งเคยเป็นอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ และถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ นั้น แท้จริงแล้ว ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญของศาล ได้รับการพิจารณาคัดเลือกโดยประธานศาลฎีกาผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ตามใบอนุญาตเลขที่ 6/2555 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2555 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขอต่อใบอนุญาตผู้เชี่ยวชาญของศาล ส่วนเรื่องการถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัย อยู่ระหว่างการอุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ความเห็นของนายวิฑูรย์เป็นเพียงหลักฐานชิ้นหนึ่งในพยานหลักฐานทั้งหลายเท่านั้น ผู้ต้องหายังมีโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนได้อย่างเต็มที่” รองโฆษกดีเอสไอ กล่าว
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า 3. มีการกล่าวหาว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษได้ขอให้ กสทช.สั่งหยุดการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม DMC โดยไม่มีการไต่สวน ทั้งที่เนื้อหามีแต่การสวดมนต์ นั่งสมาธิ สอนธรรมะให้ประชาชนเป็นคนดี ขอชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบแล้วพบว่าการออกอากาศอาจมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ กสทช. หากการออกอากาศไม่มีผลกระทบก็จะอนุญาตให้ออกอากาศตามเดิม
รองโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า 4. มีการกล่าวหาว่าการปฏิบัติงานพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. เป็นการกลั่นแกล้งดำเนินคดีโดยไม่เป็นธรรม ขอยืนยันว่า การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้กลั่นแกล้ง เพราะหากดำเนินการอันมิชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
“5.ขณะนี้มีการให้ข่าวว่าดีเอสไอและตำรวจสนธิกำลังกับทหารและฝ่ายปกครองกว่า 3,000 คน พร้อมเฮลิคอปเตอร์ สุนัขตำรวจ รถคลื่นเสียงแรงสูงทำลายแก้วหู รถฉีดน้ำความดันสูง หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เตรียมบุกเข้าวัดพระธรรมกายต่อเนื่องเป็นเวลา 4 วัน และส่อที่จะใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามจับกุมคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายที่มาสวดมนต์นั่งสมาธิอยู่ในวัดจำนวนหลายหมื่นคน ยืนยันว่าในการปฏิบัติการครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่จากดีเอและตำรวจบางส่วนเท่านั้น และไปมือเปล่า เพื่อเชิญตัวพระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนกำลังอีกส่วนหนึ่งได้จัดเตรียมไว้เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลพี่น้องประชาชนกรณีมีเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดหมายได้เท่านั้น” พ.ต.ต.วรณัน กล่าว
รองโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า 6. มีการตั้งคำถามว่าทำไมเจ้าหน้าที่ต้องยกกำลังหลายพันคนเพียงเพื่อจะจับกุมพระภิกษุชราที่อาพาธหนัก ทั้งที่ไม่ใช่คดีร้ายแรง แต่เวลาพระใน 4 จังหวัดภาคใต้ถูกฆ่า วัดถูกเผา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอและตำรวจเคยทุ่มเทกำลัง 3,000 นาย เพื่อเข้าคลี่คลายคดีหรือไม่ ขอย้ำว่ากำลังส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อปกป้องพี่น้องประชาชน เนื่องจากในการเข้าปฏิบัติการเน้นการหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบหากพระธัมมชโยเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายก็จะเป็นการไม่สิ้นเปลืองทั้งทรัพยากรบุคคลและงบประมาณ ส่วนกรณีเรื่องเหตุการณ์ 4 จังหวัดชายแดนใต้ เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายรวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งอยู่แล้ว
“7. มีการระบุว่าในช่วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาพิเศษที่ชาวไทยทั้งประเทศรวมถึงคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้ร่วมใจกันจัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นประจำทุกวัน และยังเป็นโอกาสมหามงคลอันประเสริฐที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ จึงไม่ควรที่จะมีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้น ผมเห็นว่าเมื่อวัดธรรมกายและศิษยานุศิษย์เห็นเป็นอย่างนั้น ยิ่งควรนิมนต์ให้พระธัมมชโยมอบตัวและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว เพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนในห้วงโอกาสพิเศษนี้และให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเสมอภาค” พ.ต.ต.วรณัน กล่าว
รองโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า 8. มีการระบุว่าคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายนับล้านคน คณะสงฆ์และชาวพุทธทั่วโลก ได้จับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด องค์กรพุทธนานาชาติจำนวนมากได้ทำหนังสือทักท้วงไปยัง นายกรัฐมนตรีขอให้ระงับยับยั้งการใช้ความรุนแรงต่อพระสงฆ์ ชาวพุทธ และวัดในพระพุทธศาสนา ดังนั้นเพื่อให้พี่น้องประชาชนเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเชิญสื่อมวลชนทุกแขนงมาร่วมเป็นสักขีพยานในการปฏิบัติงานครั้งนี้
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า 9. มีการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการแสดงออก อย่าให้มีลักษณะข่มขู่คุกคาม แต่แสดงให้เห็นถึงความเป็นกลาง ยุติธรรม เราเชื่อว่าสื่อมวลชนทุกแขนงจะเป็นสักขีพยานในการปฏิบัติงานของดีเอในครั้งนี้ ทั้งนี้ได้มอบนโยบายและแนวทางให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทุกคนทราบว่าจะไม่ใช้กำลัง ไม่ติดอาวุธใด ๆ ทั้งสิ้น พร้อมทั้งกำชับให้ทุกคนใช้ความระมัดระวังอย่างที่สุด เพื่อมิให้เกิดความเสียหายใดๆ จากการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้โดยให้ดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นลำดับแรก
“ขณะนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่าการให้การแถลงข่าวของนายองอาจ เป็นการให้ข้อมูลเท็จ หรือเป็นการปลุกปั่นมวลชน หรือกล่าวหาเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติวานหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” รองโฆษกดีเอสไอ กล่าว.-สำนักข่าวไทย