คุมอดีต รปภ.ทำแผนฯ ชิงทอง 71 บาท สารภาพหวังปลดหนี้

กรุงเทพฯ 25 พ.ค.- คุมอดีต รปภ.วัย 35 ปี ทำแผนฯ ก่อเหตุชิงทอง 71 บาท ในห้างดังย่านบางแค หลังถูกตำรวจใช้เวลา 8 ชั่วโมง ตามจับกุมได้คาที่พักย่านนนทบุรี พร้อมยึดของกลางคืนมาได้เกือบทั้งหมด สารภาพหวังนำเงินไปปลดหนี้เงินกู้


ตำรวจ สน.หลักสอง ควบคุมตัวนายนิธินันท์ อายุ 35 ปี อดีต รปภ. ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองในห้างดังย่านบางแค หลังก่อเหตุบุกเดี่ยวควงปืนเข้าไปชิงทองกวาดทองรูปพรรณ 71 บาท มูลค่ากว่า 2,400,000 บาท ก่อนขับรถเก๋งโตโยต้า รุ่นโคโรน่า สีขาว ทะเบียนกรุงเทพฯ หลบหนี แต่จนมุมถูกจับได้ที่ห้องพักในหมู่บ้านเอื้ออาทร บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมของกลางทองรูปพรรณประมาณ 61 เส้น ประมาณ 71 บาท

ด้านพลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยอมรับว่าเคยทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ปัจจุบันตกงาน ขาดรายได้ ติดหนี้ เงินกู้หลายธนาคารรวมเป็นเงินกว่า 100,000 บาท จึงชิงทองหาทางปลดหนี้ จากนั้นก็จะกลับตัวกลับใจ โดยวางแผนนำปืนปลอมที่เจอทิ้งอยู่ในถังขยะแถวที่พักออกมาก่อเหตุ ทีแรกเมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกันเดินทางไปดูลาดเลาที่ร้านทองอีกแห่งภายในห้างฯ ท้องที่ สน.เพชรเกษม แต่ลงมือไม่สำเร็จ เนื่องจากพนักงานภายในร้านไหวตัวทัน บอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่ถอด จึงไม่เปิดประตูให้ จากนั้นขับรถไปวนดูร้านทองแถวอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร รอยต่อถนนพุทธมณฑลสาย 4 ก็ไม่พบร้านที่จะสะดวกต่อการก่อเหตุ จึงขับรถย้อนกลับเข้ามาในกรุงเทพฯ มุ่งหน้าเข้าห้างย่านบางแค เห็นร้านทองดังกล่าวเป็นพื้นที่เปิด ไม่มีประตูกระจก หรือลูกกรงสเตนเลสปิดกั้น เลยตัดสินใจลงมือก่อเหตุ ยังไม่ทันได้นำทองไปขาย ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวเสียก่อน 


เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 8 ชั่วโมง ในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ และจากการตรวจสอบ ทองรูปพรรณอยู่กับผู้ต้องหารวม 61 เส้น แต่จากการสอบปากคำร้านแจ้งว่ามีทองสูญหายไป 66 เส้น ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบทองที่สูญหายไป เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ ชิงโดยใช้ยานพาหนะ และรับของโจร

ด้านนายวิเชียร อายุ 67 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้าไปช่วยจับคนร้าย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น แต่จู่ๆ เห็นคนร้ายเดินเข้ามาที่ร้านทองอย่างรวดเร็ว เและกระโดดขึ้นตู้กระจกไปกวาดทองรูปพรรณ จึงเข้าไปช่วยเหลือ ด้วยการดึงจับเท้าคนร้าย แต่คนร้ายพยายามสะบัดเท้าก่อนหลบหนีไป ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกลัว เพราะเป็นการทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยเกรงว่าคนในร้านจะไม่ปลอดภัยมากกว่า ยืนยันว่าทำงานรักษาความปลอดภัยตามหน้าที่ ไม่ได้ทำเพราะหวังรางวัลจากร้าน

ส่วน น.ส.แนน พนักงานร้านทอง บอกว่า ตั้งแต่เปิดร้านมา เพิ่งเคยเกิดเหตุครั้งแรก โดยปกติเวลาลูกค้าเข้ามาซื้อทองก็จะคอยสังเกตท่าทางของคนซื้ออยู่แล้ว โดยก่อนเกิดเหตุก็ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด ผู้ก่อเหตุสวมหมวกกันน็อกอำพรางใบหน้าเดินตรงเข้ามาก่อเหตุทันที กระโดดขึ้นตู้ไปกวาดทอง บอกว่าหากกดสัญญาณเตือนภัยจะยิง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ รปภ.จะเข้ามาช่วยจับกุม แต่คนร้ายวิ่งหนีออกไปได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ