กรุงเทพฯ 25 พ.ค.-บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) คาดไตรมาส 2/66 ขาดทุนจากสตอกน้ำมันไม่รุนแรง เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 ที่ขาดทุนสตอกน้ำมันอยู่ราว 3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
น.ส.สมฤดี เจริญครองสกุล ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส บริหารการเงิน บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ให้เหตุผลว่า เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลดลงมาใกล้ระดับ 80 เหรียญต่อบาร์เรล ใกล้เคียงกับต้นทุนน้ำมันดิบ (Crude cost) ที่มีอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามไตรมาส 2/66 มีทั้งปัจจัยบวกและลบ จากปัจจัย Crude Premium ที่ปรับตัวลงมาตั้งแต่ไตรมาสแรก จาก 9 เหรียญต่อบาร์เรล มาที่ 5 เหรียญต่อบาร์เรล และคาดไตรมาส 2-3 ปีนี้ ก็น่าจะลดลงต่อ ส่วนตลาดปิโตรเคมียังค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น มาร์จินขยับดีขึ้น ในขณะที่กำลังผลิตเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 190,000 บาร์เรลต่อวันแล้ว สูงกว่าปีก่อนที่ได้หยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นตามระยะเวลา ส่งผลต่ออัตราการกลั่นอยู่ที่ 175,000 บาร์เรลต่อวัน
ส่วนราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์ที่ลดลงก็คาดรายได้รวมทั้งปีจะปรับตัวลง จากปีก่อนอยู่ที่ 326,338 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรกทำได้แล้ว 81,589.72 ล้านบาท จากผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง โดยเมื่อเทียบกับปี 65 ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ปี 66 คาดราคาน้ำมันดิบดูไบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 80-90 เหรียญต่อบาร์เรล
“บริษัทได้ปรับลดการสตอกสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อรับมือกับราคาปิโตรเคมีที่ผันผวน และป้องกันการขาดทุนจากการสตอกน้ำมันมากเกินไป ล่าสุดสามารถปรับลดน้ำมันคงคลังจากเดิม 10 ล้านบาร์เรลลงเหลือ 8 ล้านบาร์เรล รวมทั้งในปีนี้ บริษัทจะรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัทร่วมทุนคือ บริษัท อินโนโพลีเมด ที่ผลิตผ้าไม่ถักไม่ทอ (Non-woven Fabric) และวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (Medical Consumables)หลังจากเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์เมื่อกลางปีที่แล้ว และในส่วนของธุรกิจยานยนต์ เช่น ตัว IRPC A&L ที่ขายเม็ดพลาสติกให้กับอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ให้กับทางญี่ปุ่น ก็มีแผนขยายตลาดไปสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ของจีนด้วย”น.ส.สมฤดี กล่าว.-สำนักข่าวไทย