สนช.เห็นชอบวาระ 3 ร่างพรป.กกต.

รัฐสภา 9 มิ.ย.-  สนช.ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง วาระ 3 ด้วยคะแนนเสียง 177 ต่อ 1 เสียง ประกาศใช้เป็นกฎหมาย  สำหรับ มาตรา 70 ที่ประชุมมีมติด้วยคะแนน 161 ต่อ 15 งดออกเสียง 12 เสียง ให้กกต.ชุดปัจจุบันพ้นจากตำแหน่ง แต่ให้ปฎิบัติหน้าที่ต่อจนกว่าจะมีกกต.ชุดใหม่  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติวันนี้ (9 มิ.ย.) ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง วาระ 2และ 3  ที่ประชุมได้อภิปรายสอบถาม การดำรงอยู่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดปัจจุบัน  ตามมาตรา 70 ที่กรรมาธิการ ปรับแก้ ให้ ประธานกกต.และกกต.ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนที่พ.ร.ป.นี้บังคับใช้ พ้นจากตำแหน่ง  แต่ให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อจนกว่าประธานกกต.และกกต.ที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ซึ่งแตกต่างจากร่างเดิม ที่ กรธ.กำหนดให้ กกต.ที่ขาดคุณสมบัติ พ้นจากตำแหน่ง 

นายเสรี สุวรรณภานนท์ กมธ. เสียงข้างน้อย ยืนยันให้คงร่างเดิม เพราะหากอยากให้การเลือกตั้งมีประสิทธิภาพ ควรมีคนที่มีประสบการณ์ มีประสิทธิภาพ มีความรู้ เข้าใจเรื่องการเลือกตั้ง ก็ควรจะมีคนเดิมทำหน้าที่ต่อเพื่อให้ภารกิจลุล่วง โดยเฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้สูงแล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ให้อยู่ต่อ 


พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมรา กมธ.เสียงข้างน้อยแปรญัตติให้กกต.ชุดเดิมอยู่ต่อทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการทำงานและคุณสมบัติใหม่หมด ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัวในการทำงาน

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ กมธ.เสียงข้างน้อย กล่าวว่า กกต.ชุดปัจจุบันมาถูกต้องตามแนวทาง ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังทั้งหมดเพื่อมาทำงาน แล้ววันดีคืนดีกลับให้พ้นจากตำแหน่ง ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง

นอกจากนี้ยังมีสนช.อีกหลายคนที่เป็นกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ได้อภิปราย โดยให้เหตุผลว่า ที่ให้กกต.อยู่ต่อนั้น ได้พิจารณาตามหลักความเป็นธรรม และอยากทราบเหตุผลว่าเหตุใดจึงเซ็ตซีโร่ กกต.ชุดนี้ และกรรมการในองค์กรอิสระอื่นจะรีเซ็ตด้วยหรือไม่ หากไม่รีเซ็ตจะชี้แจงอย่างไร


นายตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่าไม่ได้ติดใจว่ากกต.จะอยู่ต่อหรือไม่ แต่สิ่งสำคัญคือภารกิจที่สำคัญคือการปฏิรูปการเมือง ซึ่งหัวใจสำคัญของการปฏิรูปการเมืองคือกระบวนการบริหารจัดการเลือกตั้ง ที่ผ่านมากระบวนการเลือกตั้งมีปัญหาที่สะสมมานาน  ซึ่งกมธ.ได้เชิญนักวิจัย และคนที่ศึกษาเรื่องนี้ พบว่าปัญหาใหญ่คือ กกต. ในอดีตถูกร้องเรียนว่าถูกครอบงำจากอิทธิพลทางการเมือง ไม่มีอำนาจการบริหารการเลือกตั้ง และตามรัฐธรรมนูญระบุว่า กกต.จะอยู่หรือไม่ ให้เป็นไปตามหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ทางกมธ.ฯจึงตัดสินใจ บนประโยชน์ประเทศชาติ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และกระบวนการบริหารจัดการเลือกตั้งเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ 

ทั้งนี้รัฐธรรมนูญใหม่ให้อำนาจกกต.ในการสั่งให้ ปปง. ธนาคารแห่งประเทศไทย สามารถอายัดธุรกรรมทางการเงิน พรรคการเมือง ผู้สนับสนุนพรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ทำผิดได้ทันที ซึ่งถ้ากลไกแบบเดิมทำไม่ได้ และกลไกที่เป็นกระบวนการทำงานในพื้นที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีกกต.จังหวัด มีผู้ตรวจการเลือกตั้งที่เป็นเสมือนสายสืบ และมีอำนาจเหมือนกกต. ดังนั้นด้วยกลไก ด้วยอำนาจหน้าที่ที่เปลี่ยนแปลงไป จึงให้มีกลไกใหม่ คนใหม่เข้ามาทำหน้าที่จึงจะปฏิรูปการเลือกตั้งได้ ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 

“ด้วยกลไก ด้วยโครงสร้าง ด้วยอำนาจหน้าที่ที่เปลี่ยนไป กรรมาธิการฯ ก็ถกกันมาหลายวัน ที่เขียนมามันไม่พอ เราคิดสำหรับประเทศเป็นใหญ่ เราจะทำเล็ก ๆ มาคำนึงถึงเรื่องเล็ก ๆ เราปฏิรูปไม่ได้ เลยได้ความว่าให้กลไกใหม่ ที่ต้องมาใช้อำนาจใหม่ คนใหม่ มาใช้อำนาจที่ยิ่งใหญ่นี้ให้มีพลังและสามารถปฏิรูปกระบวนการจัดการเลือกตั้งได้”นายตวง กล่าว 

ขณะที่นายภัทระ คำพิทักษ์ กมธ.ในสัดส่วนกรธ. ยืนยันว่าที่กรธ.ปรับแก้ให้เซ็ตซีโร่กกต.ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใคร แต่เป็นไปตามคำปรารภของรัฐธรรมนูญที่สมควรให้การปฏิรูปประเทศ และกรธ.ตั้งใจจะเซ็ตซีโร่กกต.ตั้งแต่แรกแล้ว แต่เห็นว่าการให้ผู้ที่ขาดคุณสมบัติพ้นจากตำแหน่งในตอนแรก เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ในที่สุดที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับการแก้ไขของคณะกรรมาธิการฯ ด้วยคะแนนเสียง 161 ต่อ 15 งดออกเสียง 12 เสียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ประชุมใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมงในการพิจารณา  ที่ประชุมมีมติเห็นชอบวาระ 3 และเห็นสมควรให้ประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง 177 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง .-สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา

เศร้า ฝังศพ “พ่อ-ลูก” ครู ตชด. เหยื่อวางระเบิด

ประชาชน-ตำรวจตระเวนชายแดน นับพันคน ร่วมพิธีฝังศพ 2 พ่อลูก ครู ตชด. เหยื่อผู้ก่อความไม่สงบลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส

ข่าวแนะนำ

นายกฯไปนราธิวาส

นายกฯ นำคณะถึงนราธิวาส สวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ”

“นายกฯ อิ๊งค์” ถึงนราธิวาสสวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ” สีชมพูบานเย็น หวานฉ่ำ ถ่ายทอดความเป็นหนึ่งเดียวของผู้คนชาวนราธิวาส ที่มีความรัก สามัคคี ประสานความสัมพันธ์บนวิถีชีวิต และวัฒนธรรมอันงดงามของจังหวัดนราธิวาส

สารวันครูปี68

นายกฯ มอบสารวันครู จุดประกายฝัน ดันเด็กไทยกล้าคิด สร้างโอกาส

“นายกฯ” มอบสารวันครู ประจำปี 2568 “ครูจุดประกายความฝัน ผลักดันให้กล้าคิด สร้างโอกาสในชีวิตให้เด็กไทย” ระลึกบุญคุณครู ปลูกฝังศิษย์คิด-ทำในสิ่งที่ดีและถูกต้อง เชื่อ ครู ต้องพัฒนาพร้อมรับมือโลกยุคใหม่

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาว-ลมแรง กทม.อุณหภูมิลด 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ เซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วน กทม.-ปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ