ไทย-เนปาลพร้อมขยายความร่วมมือทุกมิติ

ทำเนียบรัฐบาล 18 พ.ค.-เอกอัครราชทูตเนปาลฯ เข้าพบนายกฯ อำลาพ้นหน้าที่ พร้อมผลักดันความร่วมมือทุกมิติ ทั้งการค้าการลงทุน การท่องเที่ยวศาสนาและวัฒนธรรม


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับนายคเณศ ประสาท ธกาล (H.E. Mr. Ganesh Prasad Dhakal) เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลประจำประเทศไทย ที่เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณเอกอัครราชทูตเนเปาลฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเนปาลตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี พร้อมฝากความปรารถนาดีไปยังนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งเนปาล

“หวังว่าประเทศไทยจะมีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรีเนปาลในช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation: BIMSTEC) ในเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้ ทั้งนี้ ไทยพร้อมให้การสนับสนุนเอกอัครราชทูตท่านใหม่ในการมารับหน้าที่เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว


เอกอัครราชทูตเนปาลฯ กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งในประเทศไทย ขอขอบคุณรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือเนปาลมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบากจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของเนปาล เมื่อปี 2558 เนปาลพร้อมสานต่อความร่วมมือกับไทยให้มีความใกล้ชิดมากขึ้นทุกมิติ โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ระหว่างกันที่ราบรื่น มีจุดเชื่อมโยงทางศาสนาและวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน จึงเชื่อมั่นว่าจะขยายความร่วมมือได้ทั้งความสัมพันธ์ในระดับประชาชนระหว่างสองประเทศให้สามารถไปหามาสู่กันได้ และในระดับภูมิภาค

ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือความร่วมมือประเด็นต่าง ๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนทางศาสนา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายยินดีที่พลวัตการแลกเปลี่ยนระหว่างสองประเทศได้ฟื้นคืนอีกครั้งภายหลังสถานการณ์โควิด – 19 คลี่คลาย สายการบินไทยมีแผนจะเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างไทยกับเนปาลในปลายปี 2566 นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตเนปาลฯ เห็นพ้องว่าทั้งสองประเทศจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการท่องเที่ยวระหว่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเส้นทางการท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งเอกอัครราชทูตเนปาลฯ กล่าวว่า มีนักท่องเที่ยวไทยให้ความสนใจเดินทางมายังเนปาลมากขึ้น เพื่อแสวงบุญที่เนปาล ซึ่งรัฐบาลเนปาลพร้อมให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี

ด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีขอบคุณความร่วมมือในการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนระหว่างภาคเอกชน การลดอุปสรรคและมาตรการกีดกันทางการค้า การส่งเสริมการลงทุนในสาขา การเกษตร ท่องเที่ยว การก่อสร้าง พลังงาน และระบบสาธารณูปโภค ขณะที่เอกอัครราชทูตเนปาลฯ พร้อมที่จะประสานความร่วมมือกับรัฐบาลเนปาลขยายโอกาสทางการค้าเพื่อการพัฒนาในสาขาที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน รวมไปถึงการเข้าร่วมการประชุม BIMSTEC ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันความร่วมมือได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับพหุภาคี


ด้านวิชาการ นายกรัฐมนตรียินดีที่เนปาลจะเข้าสู่สถานะประเทศกำลังพัฒนาในปี 2569 โดยไทยยินดีสนับสนุนในการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในสาขาที่จะเป็นประโยชน์ต่อเนปาลต่อไป โดยเฉพาะด้านการพัฒนาบุคลากรผ่านการมอบทุนอบรมในระดับต่าง ๆ รวมถึงในสาขาที่จำเป็นอย่างมากในสภาวะปัจจุบัน เช่น สาธารณสุข การพัฒนาสตรีและเด็ก รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาตามหลัก BCG Economy ซึ่งเอกอัครราชทูตเนปาลฯ ยินดีจะส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพร่วมกัน พร้อมชื่นชมหลัก BCG Economy ที่นายกรัฐมนตรีผลักดันให้เป็นวาระสำคัญเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.