กทม. 12 พ.ค.- ชุดคลี่คลายคดี “แอม ไซยาไนด์” เตรียมเรียกพยานสำคัญให้ข้อมูลเพิ่มเติมบ่ายนี้ โดยเฉพาะประเด็นพัสดุทรัพย์สินของ “ก้อย” เหยื่อรายล่าสุด
เวลา 10.30 น. บรรยากาศที่สโมสรตำรวจถนนวิภาวดี ซึ่งเป็นสำนักงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และคณะพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี “แอม ไซยาไนด์” ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังคงคึกคักอย่างเช่นทุกวัน สื่อมวลชนทุกสำนักยังปักหลักติดตามความเคลื่อนไหวคดีนี้อย่างต่อเนื่อง หลังเมื่อเย็นวานนี้ รอง ผบ.ตร. ระบุว่าในวันนี้ช่วงเช้าเวลา 10.00 น. จะพา “แก้ว” พยานผู้รับพัสดุของ “แอม” เข้าพบ “แอม” ในเรือนจำเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ “แอม” รับสารภาพ ซึ่งล่าสุดรอง ผบ.ตร. ได้ยกเลิกหมายในวันนี้ (12 พ.ค.) โดยเลื่อนไปเป็นวันที่ 13 พ.ค. เพื่อพา “แก้ว” เข้าเรือนจำและกล่อม “แอม” ให้รับสารภาพแทน
นอกจากนี้ มีรายงานว่าในช่วงบ่ายวันนี้ (12 พ.ค.) น้องสะใภ้ซึ่งเป็นภรรยาของน้องชาย “แอม” และสามีของ “แก้ว” จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูลหลังถูก “แอม” ไหว้วานให้ส่งพัสดุ ซึ่งภายในบรรจุทรัพย์สินส่วนตัวของ “ก้อย” เหยื่อผู้เสียชีวิต ให้กับ “แก้ว” ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าน้องสะใภ้และสามีของ “แก้ว” อาจมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของ “แอม” ด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนถูกพนักงานสอบสวนเรียกมาให้ปากคำในฐานะพยานเท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผบก.สส.ภ.4 ในฐานะชุดคลี่คลายคดี “แอม ไซยาไนด์” ระบุว่าเบื้องต้นในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ค.) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวน จะพา “แก้ว” พยานปากสำคัญ ผู้รับกล่องพัสดุซึ่งภายในบรรจุทรัพย์สินกระเป๋าหรู กระเป๋านามบัตร โทรศัพท์มือถือ ของ น.ส.ศิริพร หรือ “ก้อย” เข้าไปพบกับนางสรารัตน์ หรือ “แอม” ภายในทัณฑสถานหญิงกลาง โดย “แก้ว” (พยาน) มีความประสงค์จะเข้าไปพบ “แอม” เอง คาดว่าต้องการไปพูดคุยให้ “แอม” รับสารภาพ และอาจจะสอบถามถึงเรื่องทรัพย์สินดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสารไซยาไนด์ที่ “แอม” ใช้ก่อเหตุนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพื่อหาต้นขวดให้เจอ โดยล่าสุดตัดออกจากจำนวนร้อยกว่าขวดเหลือเพียงหลักสิบขวดแล้ว คาดว่าจะได้ข้อเท็จจริงในเร็วๆ นี้
ขณะที่ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศูนย์ฝึกอบรม กอง บช.น. เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ค.) ที่จะเข้าไปสอบถาม “แอม” ในเรือนจำนั้น จะเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนที่ยังขาดเหลือบางประเด็นในสำนวนคดี รวมถึงจะสอบถามเรื่องทรัพย์สินของ “ก้อย” ที่เพิ่งพบล่าสุดด้วย อย่างไรก็ตาม “แก้ว” (พยานปากสำคัญ) คาดว่าต้องการเข้าไปพูดคุยกับ “แอม” เพราะอาจจะสงสัยว่าทำไมกล่องพัสดุจึงส่งไปที่ตัวเอง ส่วนน้องสะใภ้และน้องชายของ “แอม” ไม่ต้องเข้าไปในเรือนจำด้วย เนื่องจากวานนี้ (11 พ.ค.) พนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำคนทั้งคู่เเล้ว ทั้งนี้ ตนยังอยู่ระหว่างการประชุมความคืบหน้าทางคดีที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งจะมีการประชุมในทุกเช้าของทุกวัน และก็ยังรอผลการตรวจพิสูจน์สารไซยาไนด์ในร่างกายของผู้เสียชีวิตอีกหลายรายที่เหลือเช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย