“ศรีสุวรรณ” เตรียมยื่นหลักฐานสอบถือหุ้น “พิธา” ยันไม่สกัดเลือกตั้ง

กกต. 11 พ.ค.- “ศรีสุวรรณ” เตรียมยื่นหลักฐานสอบ “พิธา” ถือหุ้นสื่อ ไม่ซ้ำรอย “ธนาธร” ผิดคุณสมบัติต้องห้ามการเป็นผู้สมัคร ส.ส. เชื่อ กกต. เสนอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไม่ได้สกัดช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง แต่ควรเคลียร์ตัวเองก่อนจะมาเป็นนักการเมือง เผยให้ถ้อยคำกรณี “เศรษฐา” ปราศรัยแจกเงินดิจิทัล หวั่นแฝงจูงใจให้คนมาเลือก


นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ให้สัมภาษณ์หลังให้ถ้อยคำต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ปราศรัยแจกเงินดิจิทัล ว่าวันนี้ กกต. เชิญมาให้ถ้อยคำเพื่อยืนยันเอกสารหลักฐาน หลังพบข้อมูลอาจฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 73 (1) (5) ที่ระบุถึงการแจกทรัพย์สิน หรือสิ่งของอื่นใดที่มีมูลค่าเป็นเงิน และเป็นนโยบายแฝงจูงใจให้คนมาเลือกตนเอง ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องสำคัญและอาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชาติในอนาคต เบื้องต้น กกต. แจ้งว่าประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นเร่งด่วนสำคัญ จึงเรียกมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม คาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ทั้งหมด โดยส่วนตัวคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์   

สำหรับเอกสารที่นำมายื่น กกต. เพิ่มเติมมีทั้งเอกสารมติ ครม. ที่อนุมัติงบประมาณปี 2567 ประมาณ 3.33 ล้านล้านบาท และเงินจำนวนนี้คาดว่าจะมีงบประมาณพอให้รัฐบาลใหม่ใช้เพียง 2 แสนล้านบาท จึงเป็นที่น่าสังเกตว่านโยบายของพรรคเพื่อไทย 70 นโยบาย ซึ่งต้องใช้งบประมาณ 3 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะนโยบายจ่ายเงินดิจิทัลต้องใช้งบประมาณ 5.6 แสนล้านบาท นั้นไม่สามารถทำได้


นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ขณะที่พรรคเพื่อไทยชี้แจงรายละเอียดกับ กกต. ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ยังไม่มีความชัดเจนในการใช้งบประมาณดังกล่าว และไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ เนื่องจากไม่มีรายละเอียดชัดเจน นอกจากนี้กรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาบอกว่าจะมีเม็ดเงินจากผลคูณทางเศรษฐกิจ อีก 1 แสนล้านบาท แต่ข้อเท็จจริงแล้วนโยบายแจกเงินของพรรคเพื่อไทย ต้องใช้งบประมาณทันที 5.6 แสนล้านบาท มองว่าจะนำงบประมาณจากอนาคตมาใช้นั้นเป็นไปไม่ได้ นโยบายจ่ายเงินดิจิทัล จึงเป็นนโยบายประชานิยมสุดขั้วเกินไป ซึ่งจะเป็นปัญหากระทบต่อเศรษฐกิจของชาติ จึงอยากให้ กกต. ออกคำวินิจฉัยโดยเร็ว   แม้ว่ากรอบระยะเวลาอาจจะไม่ทันก่อนการเลือกตั้ง

นายศรีสุวรรณ ยังให้สัมภาษณ์กรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือครองหุ้นสื่อไอทีวีว่า ก่อนหน้านี้ได้ข้อมูลหลักฐานชิ้นเดียวกันกับที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ซึ่งเป็นหลักฐานจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยเรื่องนี้มีกรณีศึกษาจากนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.นครนายก อยู่แล้ว กกต. น่าจะมีคำสั่งห้ามรับสมัครแล้วให้นายพิธาไปแก้ตัวในศาลฎีกา แต่ กกต. กลับเงียบเฉยไม่ยอมดำเนินการ ซึ่งหากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ต้องยื่นคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญอย่างเดียว

ส่วนที่นายพิธา ระบุว่าได้ชี้แจงต่อ ป.ป.ช. แล้ว เห็นว่ายังไม่ชัดเจน แม้ว่าเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะออกมาแถลง เนื่องจากพบว่าพยานเอกสารหลักฐานเดิมของนายพิธา ยื่นแสดงแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินต่อ ป.ป.ช. นั้น ไม่ได้ระบุข้อมูลการถือหุ้นไอทีวี ขณะที่ ป.ป.ช. ก็ไม่เคยเปิดเผยหลักฐานต่อสื่อมวลชนและสาธารณชนเลย มีแต่คำพูดลอยๆของเลขาฯ ป.ป.ช. ส่วนตัวมองว่าเชื่อถือไม่ได้


“การถือหุ้นของนายพิธาจะไม่ซ้ำรอยกับนายธนาธร เนื่องจากการถือหุ้นของนายธนาธร เป็นสื่อประเภทสิ่งพิมพ์ ส่วนไอทีวีเป็นสื่อโทรทัศน์มีความแตกต่างกัน ที่ว่า  บ.ไอทีวี ถูกคำสั่งปิดไปแล้วเมื่อปี 2550 ในเมื่อไม่ยื่นการปิดบริษัทและยังมีการประชุมของผู้ถือหุ้นอยู่ รวมทั้งบริษัทไปลงทุนกิจการที่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชน จะอ้างว่าปิดไปแล้วก็คงไม่ใช่ มองว่าเรื่องนี้จะต้องถึงศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน เพราะว่าเป็นเผือกร้อน กกต. คงไม่วินิจฉัยเอง” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เอกสารที่จะมายื่นต่อ กกต. มีความแตกต่างจากนายเรืองไกร ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ตามมาตรา 1559 โดยตนเองเคยเป็นผู้จัดการมรดกของบิดา เวลาไปทำนิติกรรมใดๆ เอกสารใดๆ ที่ปรากฏในชื่อของบิดาซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ตนในฐานะเป็นผู้จัดการมรดก ถ้าไม่ระบุว่าจะมอบมรดกให้กับใคร หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่จะแปลงชื่อนั้นเป็นของตนเอง ซึ่งเป็นลูกทันที นั่นหมายความว่าสามารถนำทรัพย์สินไปทำนิติกรรมใดๆ ได้ ดังนั้น เอกสารที่ปรากฏในชื่อของนายพิธา ไม่ได้มีวงเล็บว่าในฐานะผู้จัดการมรดก ซึ่งหมายความว่านายพิธาก็สามารถดำเนินการใดๆ กับหุ้นนี้ได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารหรือคำสั่งของศาลในเรื่องของการตั้งผู้จัดการมรดก ดังนั้น คำพูดที่นายพิธา อธิบายมานั้นไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็ได้

ส่วนที่มีการมองว่าการร้องเรื่องถือหุ้นนายพิธา เป็นเกมขัดขาพรรคก้าวไกล นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า มันจะเป็นเกมสกัดขาได้อย่างไร เพราะทุกการเลือกตั้งก็จะมีเรื่องร้องเรียนว่าผู้สมัครหรือพรรคการเมืองฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการร้องเรียนในช่วงการเลือกตั้ง จะมองว่าเป็นการขัดขาก็แล้ว แต่ส่วนตัวมองว่าผู้สมัคร ส.ส. หรือคนที่จะเข้ามาเป็นนักการเมืองจะต้องเคลียร์ตนเองตั้งแต่เริ่มต้น คิดจะเป็นนักการเมืองแล้ว ไม่ควรปล่อยให้คนอื่นมาจับผิดแบบนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง