สงขลา 9 พ.ค. – “พล.อ.ประวิตร” อ้อนชาวสงขลา ขอให้เลือกผู้สมัคร พปชร.ทั้ง 9 เขต เพื่อสนับสนุนให้นั่งนายกฯ คนที่ 30 โชว์ผลงานก้าวข้ามความขัดแย้ง ประคองรัฐบาลมาครบ 4 ปี
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ภาคใต้ ณ โรงเรียนในเมือง อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และคณะกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้ดูแลกำกับการเลือกตั้งพื้นที่ กทม., ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง, นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ทั้ง 9 เขต ได้แก่ นายภวัต นิตย์โชติ เขต 1 เบอร์ 7, นายอดิสัณห์ ชัยวิวัฒน์พงศ์ เขต 2 เบอร์ 6, นายอาทิตย์ สุวิทย์ เขต 3 เบอร์ 5, นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว เขต 4 เบอร์ 1, นายญาณพง เพชรบูรณ์ เขต 5 เบอร์ 6, นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ เขต 6 เบอร์ 5, นายธเนศ ล่องนาวา เขต 7 เบอร์ 7, นายธีรพงศ์ ดนสวี เขต 8 เบอร์ 3 และนายล่องหิ้น ทิพย์แก้ว เขต 9 เบอร์ 2
โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวปราศรัยว่า ตนและพรรคพลังประชารัฐ พร้อมจะรับใช้ชาวจังหวัดสงขลา เราเลือกคนดีและคนเก่งมาเป็นผู้แทนของประชาชน จึงขอให้เลือกผู้สมัครของพลังประชารัฐทั้ง 9 เขต และเลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 บัตรสีเขียว วันนี้ตนอยากให้คนไทยรักกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง และความยากจนไปด้วยกัน
“พี่น้อง รู้หรือไม่ว่าการก้าวข้ามความขัดแย้งคืออะไร ผมจะบอกว่า การประสานงานของผมทำให้รัฐบาลอยู่มาครบ 4 ปี นี่คือการก้าวข้ามความขัดแย้งที่ผมทำมาโดยตลอด ผมอยากให้ชาวสงขลารักกัน เพื่อที่จะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่จังหวัดสงขลา และประชาชนทุกคนจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแน่นอน ถ้าทุกคนอยากได้ ก็ขอให้เลือก ส.ส.ของพรรค พปชร. เพื่อสนับสนุนผมเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทยด้วยครับ”
“เราจะมาช่วยกันเพื่อพัฒนาประเทศ โดยมีเป้าหมายให้ชาวจังหวัดสงขลาได้อยู่ดีกินดี ตามนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ เราต้องการให้คนไทยทุกคนมีความสุข วันที่ 14 พ.ค.นี้ ขอให้ชาวสงขลาทุกคน กาเบอร์ 37 รวมถึงผู้สมัครทั้ง 9 เขตของพรรคพลังประชารัฐ แล้วเราจะดูแลประชาชนให้มีความเจริญรุ่งเรือง ให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ดีกินดี และมีความสุขตลอดไป”
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตอนนี้มีกระแสโจมตีจากพรรคการเมืองบางพรรค ว่าผมไม่ชอบคนใต้ ซึ่งผมขอยืนยันว่า ถึงแม้ว่าผมจะเกิดที่จังหวัดพะเยา ภาคเหนือของประเทศไทย แต่ผมก็ใช้ชีวิตเติบโตมาในจังหวัดนราธิวาส อำเภอตากใบ เพราะฉะนั้น หัวใจของผมคือคนใต้ ผมรักคนใต้ และผมรักใครรักจริง เหมือนคนใต้ทุกคน ซึ่งน้องชายของผม นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว หรือ น้องกฤต ผู้สมัครคนนี้ก็ถูกกลั่นแกล้งสารพัด แต่ผมรักน้องชายคนนี้ เพราะรู้ดีว่าเขามีใจที่รัก และอยากทำเพื่อชาวสงขลาอย่างแท้จริง จึงขอโอกาสให้ได้เข้ามารับใช้ประชาชนด้วย และทุกนโยบายของพรรค พปชร. ล้วนแต่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระให้กับพี่น้องประชาชน อย่างเช่น บัตรประชารัฐ ที่ พล.อ.ประวิตร ก็ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า เราจะต้องเข้ามาให้คนไทยทั้งประเทศหลุดพ้นจากความยากจน
ด้าน ศ.ดร.นฤมล กล่าวปราศรัยว่า ขอบคุณพี่น้องชาวสงขลาทุกคนที่มาหาพวกเราอย่างมืดฟ้ามัวดิน เป็นการต้อนรับที่อบอุ่นอย่างมาก น้องกฤตถูกกลั่นแกล้งมาอย่างหนักตั้งแต่มาสมัครรับเลือกตั้ง แต่ก็มีจิตใจที่แน่วแน่ มั่นคง ที่จะมาทำงานเพื่อให้เขต 4 ของจังหวัดสงขลาได้พัฒนา และประชาชนอยู่กันอย่างมีความสุข น้องกฤตเป็นห่วงพี่น้องเกษตรกรอย่างมาก จึงได้มาบอกกับกรรมการบริหารพรรค พปชร ซึ่ง พล.อ.ประวิตร บอกว่า จะจัดการเรื่องที่ดินทำกินให้กับพี่น้องชาวสงขลาทุกคน มี พปชร.ไม่มีแล้ง ไม่มีจนแน่นอน นอกจากนี้ เรายังจะมีทุนให้เกษตรกร ครอบครัวละ 30,000 บาท เพื่อนำไปต่อทุนในการทำเกษตรกรรมด้วย
“พล.อ.ประวิตร แก้ปัญหาน้ำมาตลอด 4 ปี และเราจะเข้าไปพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประชาชน ซึ่งถ้าทุกคนอยากได้ วันที่ 14 พ.ค.นี้ ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ บัตรเขียว เบอร์ 37 เลือกให้ลุงป้อมเป็นนายกรัฐมนตรี และบัตรสีม่วง ขอให้เลือกผู้สมัครของเรา แล้วเราจะมาก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ด้านผู้สมัครของพรรคอย่างนายชนนพัฒฐ์ หรือ กฤต กล่าวกับประชาชนว่า อาชีพของพี่น้องประชาชนที่นี่คือการทำประมง ซึ่งเป็นการทำเกษตรที่ต้องอาศัยน้ำ แต่ปัญหาที่ผ่านมาก็คือ หน้าฝนน้ำท่วม หน้าแล้งไม่มีน้ำใช้ แต่วันนี้ประชาชนให้โอกาสตน และพรรคพลังประชารัฐ ปัญหาเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง จะหมดไปอย่างแน่นอน เพราะ พล.อ.ประวิตร ได้วางโครงการแก้ปัญหาน้ำของคาบสมุทรสทิงพระไว้หมดแล้ว หลายโครงการที่ท่านทำอยู่ เช่น โครงการระบายน้ำที่ท่วมในหน้าฝนลงสู่ทะเลอ่าวไทย โดยการเจาะถนนสาย 408 ที่ ต.พังยาง อ.ระโนด และ ต.สนามชัย อ.สทิงพระ ให้ไหลลงสู่ทะเลด้วยความรวดเร็ว เป็นการแก้ปัญหาน้ำท่วม
“ส่วนการแก้ปัญหาน้ำแล้ง และน้ำเค็มที่รุกล้ำเข้าพื้นที่ทำการเกษตรในหน้าแล้ง จะมีการสร้างแก้มลิงขนาดใหญ่ในทะลสาบในพื้นที่ ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ เพื่อใช้กักเก็บน้ำจืดไว้ใช้ในการทำการเกษตรในหน้าแล้ง นอกจากเกษตรกรจะมีน้ำใช้ตลอดปีในการทำการเกษตรแล้ว ยังเป็นการป้องกันน้ำเค็มไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชน เกษตรกรในคาบสมุทรสทิงพระ จะไม่มีปัญหาเรื่องน้ำแล้ง น้ำท่วม อีกต่อไป” นายชนนพัฒฐ์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย