นักวิชาการ ห่วงเด็กอ่อนแอทางความคิด เลียนแบบ ‘เปรี้ยว’

จุฬาฯ7 มิ.ย.- ในเวทีจุฬาเสวนาฯ ครั้งที่ 6 เรื่อง ‘ฆ่า หรือ ค่า สื่อกับดราม่าความรุนแรงในสังคมไทย’ นักวิชาการชี้เหตุการณ์ ‘เปรี้ยว’ ฆ่าหั่นศพ นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของการนำเสนอที่สื่อหลักเป็นผู้ตามกระแสสื่อออนไลน์ ขณะเดียวกันเกิดความน่าเชื่อถือเพจสายดาร์กมากเป็นปรากฏการณ์ สื่อหลักไม่ได้ป้องปรามหรือคิดถึงผลกระทบพอควร ห่วงเด็ก 7-8 ปี มีพฤติกรรมเลียนแบบ


รศ.สมโภชน์ เอี่ยมสุภาษิต นักวิชาการด้านจิตวิทยา กล่าวว่า ปรากฏการณ์การฆ่าคน เป็นปรากฏการณ์ที่สื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย กลายเป็นพลังการในนำเสนอ ขณะที่สื่อหลักกลับกลายเป็นสื่อรอง และพยายามนำเสนอที่แตกต่างให้น่าสนใจกว่า ทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมในระยะยาว ที่น่าห่วงคือเยาวชนที่มีอายุ7-8 ปี ที่ยังไม่มีหลักหรือต้นแบบ และคนที่มีภาวะสุ่มเสี่ยง ประมาณร้อยละ 2.5 มีเปอร์เซ็นต์ที่จะทำตามกรณีฆ่าหั่นศพ เพราะเป็นสิ่งที่ปรากฏในเบื้องลึกของความทรงจำของเด็ก ชินกับความก้าวร้าวรุนแรง ใครๆ ก็ทำได้และใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา เกิดความก้าวร้าวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และบางคนก็มีความกลัวหวาดระแวงในสังคม 


ด้าน ผศ.มรรยาท อัครจันทโชติ นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สังคมไทยให้ความสนใจกับข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี จากผลการสำรวจกระแสความนิยมข่าวของ ‘โปรเมย์’ นักกอล์ฟ กับ ‘เปรี้ยว’ ฆ่าหั่นศพ จะพบว่าแตกต่าง ข่าวโปรเมย์มีคนสนใจแค่ร้อยละ 5 ขณะที่ข่าวของเปรี้ยวได้รับความสนใจถึงร้อยละ 80 และจากกรณีเปรี้ยวฆ่าหั่นศพ ทำให้เกิดกระแสเพจนักสืบออนไลน์ เพจดาร์ก ที่กลายเป็นผู้ที่มีความน่าเชื่อถือ สืบค้นข้อมูลรวดเร็วมากกว่าสื่อหลัก 

ผศ.เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ นักวิชาการด้านการรู้เท่าทันสื่อ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปรากฏการณ์เปรี้ยว ควรตั้งคำถามกับสื่อมวลชนมากกว่าให้ผู้รับสารตั้งสติและป้องกันตนเอง เนื่องจากข่าวนี้มีความครบเครื่องในเรื่องราว ทั้งความสวยงามของรูปร่าง ความรุนแรง มีแต่คนตั้งข้อสังเกตว่าเปรี้ยวจะมีรูปร่างหน้าสวยจริงหรือเปล่า หรือใช้แอพลิเคชั่น แต่งรูปก่อนที่จะมีการมอบตัว ทุกคนมุ่งแต่เรื่องภายนอก และมองเรื่องของการศัลยกรรมเป็นเรื่องปกติ

และสิ่งที่แปลกมากในเรื่องนี้ คือ การไม่แสดงหรือติดตาม ผู้ที่สูญเสีย หรือเหยื่อ แต่กลับติดตามครอบครัวของผู้ต้องหา ที่น่ากลัวมาคือความคิดของคนที่ว่าสวยและร้ายและจะดัง วิกฤตการณ์นี้ควรพลิกวิกฤตเป็นโอกาส สร้างความแตกต่างระหว่างสื่อมวลชนวิชาชีพ กับสื่อมวลชนที่ตามเรื่องราว สื่อหลักควรแสดงให้เห็นความต่างว่าจะป้องปรามและเตือนสังคมอย่างไรไม่ให้มีคนเช่นเปรี้ยวแบบนี้อีก 


ผศ.ปารีณา ศรีวนิชย์ นักวิชาการด้านกฎหมายอาญา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การนำเสนอข่าวเปรี้ยว หั่นศพ หรือแอ๋ม เหยื่อนั้น ต้องนำเสนออย่างมีศักดิ์ศรี เสมอกันทั้งผู้ต้องหาและผู้เสียหาย การพิจารณาด้วยความเป็นกลาง ปราศจากอคติจากความรักความชัง และความกลัว การนำเสนอของสื่อทำให้เกิดความไม่เป็นกลางหรืออคติขึ้น ทำให้มักนิยมนำเสนอแบบดราม่าเล็ก ๆ เล่าเรื่องราว และเป็นไทม์ไลน์ ซึ่งจะเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าไม่รู้ เป็นเรื่องที่เกิดจากนักข่าววิเคราะห์ ตามหลักการแล้วการนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ควรผ่านการตัดสินของศาล หรือผ่านกระบวนการจับกุมไปแล้ว เพราะบางครั้งความจริงที่นำเสนออาจไม่ใช่ เพราะเป็นความจริงที่สังคมคิดหรืออยากให้เป็น 

ผศ.นพ.ภุชงค์ เหล่ารุจิสวัสดิ์ จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการเจ็บป่วยหรือป่วยทางจิต แต่เป็นฆาตกรรมอำพรางคดี การสันนิษฐานทุกความรุนแรงว่าผู้กระทำต้องอาจเป็นโรคทางจิตเภท มันก็ไม่เป็นธรรมนัก การรับรู้ว่าผู้กระทำผิดเจ็บป่วยแล้วได้อะไร สังคมจะทำอะไรต่อ เรื่องนี้จะมีผลอย่างไร แทบไม่มีเหตุผลเลย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน