กรมศุลฯ ส่งสำนวนคดีให้ตำรวจกองปราบเอาผิดหมูเถื่อน

กรมศุลกากร 8 พ.ค. – กรมศุลกากร ส่งสำนวนคดีให้ตำรวจกองปราบฯ เอาผิดผู้นำเข้าเนื้อหมูเถื่อน 161 ตู้ หลังสมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ กดดันหนัก เร่งทำลายสินค้ายึดทั้งหมด เสนอแก้ไขกฎหมายคุมเข้มลักลอบนำเข้าหมูล้นตลาด


นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร หารือกับนายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และตัวแทนเกษตรกรฟาร์มสุกร หลังมีปัญหาเนื้อหมูล้นตลาด จากการลักลอบนำเข้าและค้าเนื้อหมูเถื่อนจำนวนมาก จนเป็นการทำลายอาชีพของผู้เลี้ยงสุกรไทย ทำให้ราคาสุกรหน้าฟาร์มตกต่ำลงต่อเนื่อง จาก 110 บาท ลดเหลือ 65-75 บาท/กิโลกรัม ทำให้เกษตรกรขาดทุนหนัก เพราะยังมีการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนหมูเข้ามาจำนวนมาก กลุ่มผู้ชุมนุมจึงขอให้ทำลายสินค้าชิ้นส่วนเนื้อสุกรตกค้างในท่าเรือแหลมฉบัง 161 ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 4.5 ล้านกิโลกรัม ยืนยันของกลางทั้งหมดไม่หลุดออกไปตลาดข้างนอกอย่างแน่นอน

ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา เมื่อผู้นำเข้าไม่ยอมมาสำแดงเนื้อหมู เพื่อเสียภาษีนำเข้า ในเขตฟรีโซน กรมศุลกากรจึงอายัดตู้สินค้าทั้งหมด 161 ตู้ เมื่อเป็นคดีใหญ่ กระทบเกษตรกรจำนวนมาก จึงส่งสำนวนให้ตำรวจกองปราบฯ ดำเนินคดีในสัปดาห์หน้า เพื่อเอาผิดอย่างเด็ดขาด หลังจากช่วงที่ผ่านมา กรมศุลกากร ร่วมมือกับหลายหน่วยงาน เช่น ตำรวจ กรมปศุสัตว์ และอีกหลายหน่วยงาน คุมเข้มการนำเข้าสินค้าตามแนวชายแดนและท่าเรือขนาดใหญ่ เพื่อดูแลการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรและชิ้นส่วนต่างๆ เป็นกรณีพิเศษ สามารถจับกุมสินค้าลักลอบนำเข้าและสำแดงเป็นเท็จ จำนวน 4.5 ล้านกิโลกรัม ยืนยัน 161 ตู้ พร้อมส่งให้กรมปศุสัตว์ทำลายทั้งหมด


สำหรับการส่งมอบหมูให้กรมปศุสัตว์ทำลายวันละ 1-2 ตู้ เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องระบบการทำลาย อีกทั้งระบบเขตฟรีโซน (เขตปลอดอากรของภาคเอกชน) ตามมาตรฐานสากล สามารถเก็บสินค้าในพื้นที่ดังกล่าว 30 วัน และขยายเวลาได้อีกเป็น 45 วัน หากต้องการส่งสินค้าออกไปขายในประเทศ หรือส่งกลับประเทศต้นทาง ยอมรับสินค้าตกค้าง 8 เดือน ผู้นำเข้ายังไม่ยอมสำแดงเสียภาษีนำเข้า เพราะเกรงกลัวความผิด บางรายแจ้งนำเข้าอาหารทะเล ปลา แต่แอบซ่อนเนื้อหมูปะปนมาด้วย กรมศุลกากรจึงสั่งทุกด่านชายแดนปรับระบบใหม่ ให้ตรวจทุกตู้สินค้าที่สำแดงนำเข้าเป็นสินค้าอาหารสดแช่แข็งทั้งหมด Green line, Red line ต้องทำการสแกนตรวจทั้งหมด ยืนยันปราบปรามสุกรเถื่อนอย่างเข้มงวดมากขึ้น ท่าเรือทั้งหมดต้องปลอดหมูเถื่อนแน่นอน

นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และตัวแทนเกษตรกรฟาร์มสุกร แจ้งว่า หลังจากกรมศุลกากรสั่งยึดเนื้อหมู ทั้งหมดต้องการให้เร่งส่งทำลายทั้ง 161 ตู้ นำเข้าจากสหรัฐ บราซิล ชิลี แบบโปร่งใส หลังจากยึดไว้นาน 8 เดือน เสนอให้แก้ไขกฎหมายนำเข้า ป้องกันลักลอบอย่างชัดเจน ยอมรับว่า ผู้นำเข้าส่วนใหญ่สำแดงนำเข้าปลา อาหารทะเล และลักลอบนำเข้าเนื้อหมูมาผสม เมื่อเห็นกรมศุลกากรแสดงความจริงใจแก้ปัญหา และหาแนวทางป้องกันหมูเถื่อนเข้ามาระบาดอีก กลุ่มผู้ชุมนุมจึงพอใจ แยกย้ายเดินทางกลับ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ