กทม. 8 พ.ค. – “ศิริพงษ์-พีระพงษ์” ไม่สนคะแนนนิยมเพื่อไทย-ก้าวไกล กทม.พุ่ง มั่นใจ “พปชร.” ปักธง 2 เขต หนองจอก-คลองสามวา และหนองจอก-มีนบุรี-ลาดกระบัง แน่ ชี้มีผลงานการันตี
นายศิริพงษ์ รัสมี ผู้สมัคร ส.ส.เขตหนองจอก-คลองสามวา เบอร์ 10 พร้อมด้วยนายพีระพงษ์ รัสมี ผู้สมัคร ส.ส.เขตหนองจอก-มีนบุรี-ลาดกระบัง เบอร์ 4 พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง
นายศิริพงษ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ส่วนตัวมั่นใจในคะแนนนิยมที่ประชาชนชาวหนองจอก-คลองสามวา มีต่อตนเองและพรรคพลังประชารัฐ ยังดีอยู่มาก แม้จะมีกระแสของผู้สมัครพรรคอื่นๆ แทรกมาบ้างก็เป็นเรื่องปกติในช่วงของการแข่งขัน
ส่วนผลโพลที่ออกมาระบุว่าในพื้นที่ พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล มีคะแนนนำอยู่นั้น นายศิริพงษ์ กล่าวว่า โพลก็คือโพล ต้องไปดูว่าเป็นโพลของใคร หน่วยงานไหน รูปแบบการทำโพลใช้วิธีใด ผลที่ออกมาสำรวจจากตัวอย่างไม่กี่พันคน บางครั้งอาจจะวัดอะไรไม่ได้ จึงต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณา แต่เท่าที่ทราบและสัมผัสจากการลงพื้นที่ ตนเองมีคะแนนนำคู่แข่งและจะชนะอย่างแน่นอน เพราะทำพื้นที่มาตลอดไม่เคยทิ้ง ซึ่งประชาชนเองก็รับรู้ และมั่นใจว่าคนในพื้นที่ไม่น่าจะเลือกคนตามกระแส แต่คงเลือกคนที่ทำงาน คนที่แก้ปัญหาให้พวกเขามาโดยตลอด
“ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ตนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตนตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะปัญหาเล็กหรือใหญ่ เช่น ถนนหนทางที่ชำรุด สะพานที่ก่อสร้างไม่เสร็จ เสาไฟส่องสว่าง ล้วนดำเนินการ ซ่อมแซม ติดตั้งในสมัยที่ตนเป็น ส.ส. แทบทั้งสิ้น ยังไม่นับรวมไปถึงการผลักดันกฎหมายสำคัญต่างๆ ในสภาฯ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ผลงานเหล่านี้การันตีให้มั่นใจได้ว่าถ้าเลือกศิริพงษ์ เบอร์ 10 ท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน” นายศิริพงษ์ กล่าว
นายศิริพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้พรรคพลังประชารัฐยังมีนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เช่น บัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ลดราคาน้ำมันเบนซิน ให้เหลือลิตรละ 18 บาท ดีเซล ลิตรละ 6.30 บาท ลดราคาค่าไฟฟ้าครัวเรือนจะอยู่ที่ 2.50 บาทต่อหน่วย ค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ 2.70 บาทต่อหน่วย นอกจากนี้จะผลักดันนโยบายเบี้ยผู้สูงอายุ โดยอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท อายุ 70 ปี ขึ้นไปได้ 4,000 บาท อายุ 80 ปีขึ้นไป ได้ 5,000 บาท เป็นต้น
ด้านนายพีระพงษ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เสียงตอบรับดี เพราะแม้จะหน้าใหม่ทางการเมือง แต่ที่ผ่านมาตนเองก็คลุกคลีอยู่ในเส้นทางนี้มาตลอด ได้รับรู้ปัญหาความเดือดร้อน ความต้องการของชาวบ้านเป็นอย่างดี และคอยประสานให้การช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังจนหลายเรื่องได้รับการแก้ไขและประสบความสำเร็จ แต่วันนี้เมื่อมีโอกาสก็อยากจะอาสามาทำงานตรงนี้อย่างเต็มตัว ซึ่งประชาชนก็เห็นถึงความตั้งใจที่ตนเองอยากเข้าไปเปลี่ยนแปลง แก้ปัญหาและพัฒนาพื้นที่ให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้น ขอโอกาสจากชาวหนองจอก มีนบุรี และลาดกระบัง ให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงคนนี้ได้ทำหน้าที่ผู้แทนประชาชน 14 พ.ค.นี้ ขอให้ทุกท่านออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง พีระพงษ์ เบอร์ 4 เลือกพลังประชารัฐ เบอร์ 37.-สำนักข่าวไทย