หลัก “3ส.3อ.1น.” ช่วยลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

กรุงเทพฯ 23 เม.ย. – คกก. อำนวยการขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพดีวิถีใหม่ฯ เตรียมเสนอหลัก “3ส.3อ.1น.” ช่วยลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง


นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพดีวิถีใหม่ วิถีธรรม วิถีไทย วิถีเศรษฐกิจพอเพียง เห็นตรงกันว่าโรคไม่ติดต่อเรื้องรัง (NCDs) เป็นปัญหาสำคัญของระบบสาธารณสุขและเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตของคนไทย โดยข้อมูลจากกองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค ปี 2564 มีผู้เสียชีวิตจากโรคเบาหวาน 16,008 ราย และจากโรคความดันโลหิตสูง 9,444 ราย ซึ่งกลุ่มโรคนี้ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ที่ประชุมฯ จึงมีมติให้ใช้หลัก “3ส.3อ.1น.” คือ 3 ส. : สวดมนต์, สมาธิ, สนทนาธรรม 3อ. : อาหาร, ออกกำลังกาย, อารมณ์ และ 1 น. : นาฬิกาชีวิต ซึ่งเป็นการนำหลักทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย บูรณาการร่วมกับหลักศาสนา หลักการแพทย์แผนปัจจุบัน หลักการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ภูมิปัญญาและวิถีความเป็นไทย ในการปรับแก้พฤติกรรมสุขภาพ ส่งผลต่อการป้องกันและควบคุมโรค NCDs ตั้งเป้าลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ ลดภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยมีความสุขในการดำเนินชีวิต ลดความแออัดของโรงพยาบาล และลดค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งระดับบุคคล ชุมชน และประเทศ โดยจะผลักดันเข้าสู่แผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ของกระทรวง ในสาขาระบบบริการปฐมภูมิและสุขภาพอำเภอ และนโยบายชาติ เพื่อให้มีการขยายผลการปฏิบัติให้ครอบคลุม

นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชัน “ไทยสุข” เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับให้คำแนะนำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดป่วยลดเสี่ยง NCDs ผ่านการบันทึกกิจวัตรประจำวันตามนาฬิกาชีวิต เช่น การดื่มน้ำ การรับประทานอาหาร การนอนหลับ การออกกำลังกายและค่าการตรวจคัดกรองสุขภาพต่างๆ รวมถึงการประเมินและติดตามผลซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงการดูแลสุขภาพในทุกกลุ่มวัยมากขึ้น


ทั้งนี้ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกระนวน จังหวัดขอนแก่น ได้นำหลัก 3ส. 3อ. 1น. มาอบรมและฝึกปฏิบัติในผู้ป่วยเบาหวาน 45 คน มีการติดตามและให้คำแนะนำทางไลน์เป็นระยะโดยมีพี่เลี้ยง ได้แก่ อสม. และเจ้าหน้าที่ ร่วมกับการเฝ้าระวังระดับน้ำตาล สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ใช้เวลา 3 – 6 เดือน พบว่าผู้ป่วยทุกคนน้ำหนักตัวและรอบเอวลดลง (มากที่สุด 27 กิโลกรัม น้อยที่สุด 3 กิโลกรัม) ลดยาเบาหวานได้ 30 คน คิดเป็น 66.6% เข้าสู่ภาวะเบากวานสงบ (DM Remission) หยุดยาได้ 15 คน คิดเป็น 33.3% .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง