กรุงเทพฯ 19 เม.ย.- กรมอุตุนิยมวิทยาเผย วันที่ 27 เมษายนนี้ ดวงอาทิตย์จะตั้งฉากกลางประเทศไทย บริเวณกรุงเทพมหานคร แต่คาดการณ์ว่า อากาศจะไม่ร้อนจัดเนื่องจากเป็นช่วงหลังมวลอากาศเย็นระลอกใหม่แผ่ลงมา โดยปลายฤดูร้อนนี้ อุณหภูมิจะไม่สูงเท่าครึ่งแรกของเมษายน และคาดว่า ฤดูฝนจะเริ่มต้นกลางเดือนพฤษภาคมตามปกติ
ว่าที่ ร.ต. ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ครึ่งหลังของเดือนเมษายนซึ่งเป็นปลายฤดูร้อน อุณหภูมิจะไม่สูงมากเหมือนครึ่งแรกของเดือน ทั้งนี้ช่วงอากาศร้อนที่สุดผ่านพ้นไปแล้ว โดยอุณหภูมิสูงสุดคือ 44.6 องศาเซลเซียสที่อำเภอเมือง จังหวัดตากเมื่อวันที่ 15 เมษายนซึ่งเท่ากับอุณหภูมิสูงสุดที่เก็บสถิติได้เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2559 ที่อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังจากนี้ลมจะค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนทิศจากลมใต้ที่พัดพาหย่อมความกดอากาศต่ำจากความร้อนเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน
ในวันที่ 27 เมษายน เวลา 12.16 น. ดวงอาทิตย์จะตั้งฉากกลางประเทศไทยบริเวณกรุงเทพมหานคร แต่อากาศไม่ร้อนจัดเนื่องจากวันที่ 24-26 จะมีพายุฤดูร้อนเพราะมวลอากาศเย็นระลอกใหม่แผ่ลงมาปะทะกับอากาศร้อน จึงคาดว่า วันที่ 27 จะมีเมฆมากกับฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ต่ำกว่าสถิติวันที่ 22 พฤษภาคม 2526 – 40.8 องศาเซลเซียสที่เขตดอนเมือง
กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ฤดูฝนปีนี้ จะเริ่มต้นกลางเดือนพฤษภาคม แต่จะเป็นปีที่ฝนน้อย เหตุจากปรากฏการณ์เอนโซที่เกิดลานีญาต่อเนื่องมา 2 ปี จะพลิกผันเป็นเอลนีโญช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมและจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงด้วย
รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวย้ำว่า ปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นรอยต่อของฤดูร้อนกับฤดูฝน ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยยังคงมีอากาศร้อนอบอ้าวหลายพื้นที่ในบางช่วง กับจะมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ จึงระวังสุขภาพ อีกทั้งระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่เข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ตลอดจนไม่ควรสวมใส่โลหะและหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองเนื่องจากอาจเกิดฟ้าผ่าได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย.-สำนักข่าวไทย