สนช.รับหลักการร่าง กม.พิจารณาคดีผู้ดำรงตำแหน่างทางการเมือง

รัฐสภา 2 มิ.ย.-  สนช.รับหลักการร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ กรธ.เพิ่มระบบไต่สวนให้ชัด ป้องกันทนายความใช้ช่องโหว่กฎหมายเพื่อเอาชนะ พร้อมเพิ่มการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย กรณีจำเลยหลบหนี


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (2 มิ.ย.) พิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. …. ตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้เสนอ โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ชี้แจงว่า กรธ.ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ด้วยวิธีการจัดการสัมมนาและนำร่าง พ.ร.ป.ขึ้นสู่เว็บไซต์ เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษา และส่งความคิดเห็นมายัง กรธ. จากนั้น กรธ.ได้นำความเห็นทั้งหมดมาประกอบการพิจารณาและจัดทำบทวิเคราะห์ส่งมาให้ สนช.แล้ว 

นายมีชัย กล่าวว่า กรธ.ไม่ได้แก้ไขร่างกฎหมายฉบับนี้ จากที่ศาลฎีกาได้ยกร่างเบื้องต้นมา   เพียงเพิ่มเติม 2 ประเด็น เพื่อขจัดปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ คือ เพิ่มเติมการกำหนดวิธีการใช้ระบบไต่สวนของศาลฎีกาให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้การพิจารณาของศาล ไม่ใช่มีเพียงการเอาแพ้เอาชนะในเชิงเทคนิค หรือ ทนายความที่อาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย และ เพิ่มการพิจารณาคดีลับหลังจำเลย กรณีจำเลยหลบหนี  เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถดำเนินคดีได้  จึงได้ปิดช่องโหว่เรื่องนี้ โดยคำนึงถึงหลักสากล 


“หลักเกณฑ์การพิจารณาคดีลับหลังจำเลย ในกรณีที่จำเลยหลบหนี กำหนดอยู่ในมาตรา 26-28 โดยวางหลักไว้ว่า ตามปกติในวันที่ฟ้องคดี ผู้ฟ้องจะต้องนำตัวจำเลยมาที่ศาล แต่หากจำเลยไม่มาที่ศาล และมีหลักฐานว่าได้ออกหมายจับจำเลยแล้ว ไม่ได้ตัวจำเลยมา ก็ให้ศาลรับฟ้องและพิจารณาคดีได้ แต่ยืนยันว่า จะไม่ตัดสิทธิ์จำเลยที่ตั้งทนายความมาต่อสู้” นายมีชัย กล่าว

ด้าน สมาชิก สนช. ส่วนใหญ่สนับสนุนร่าง พ.ร.ป.ฉบับนี้ แต่เป็นห่วงเรื่องจำเลยที่หลบหนีไปต่างประเทศ แล้วตั้งทนายความมาต่อสู้ ทำให้ไม่สามารถดำเนินคดีกับจำเลยที่หลบหนีได้ และกลับมีการสร้างมวลชนทำให้เกิดความขัดแย้ง ขณะที่ จำเลยอาจจะกลับเข้ามาได้อีกครั้ง เมื่อมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจ ดังนั้น กระบวนการยุติธรรมต้องไม่ล่าช้า และการพิจารณาคดีควรเสร็จสิ้นภายใน 1 ปี

จากนั้น ที่ประชุม สนช.มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่าง พ.ร.ป.ดังกล่าวด้วยคะแนน 190 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 19 คน กรอบการดำเนินงาน 45 วัน แปรญัตติ 7 วัน        .- สำนักข่าวไทย        


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์