กรุงเทพฯ 18 เม.ย. – กลุ่มทิสโก้ แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/66 มีกำไรสุทธิ 1,793 ล้านบาท ธุรกิจสินเชื่อยังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงแข็งแกร่ง 23.5% และเงินสำรองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้สูงถึง 248% เตรียมจ่ายปันผลหุ้นละ 7.75 บาท พ.ค.นี้
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปี 2566 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 1,793 ล้านบาท ถือเป็นระดับทรงตัว หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยธุรกิจสินเชื่อยังคงเติบโตได้ต่อเนื่องที่ระดับ 0.5% จากการขยายสาขา “สมหวัง เงินสั่งได้” ที่กระจายโอกาสออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ สร้างการเติบโตให้แก่สินเชื่อจำนำทะเบียนแก่กลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น รวมถึงสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่ยังคงเติบโตได้ดีตามภาคเศรษฐกิจที่กลับมาขยายตัว หนุนให้รายได้ดอกเบี้ยปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยเติบโตไปพร้อมกับการปล่อยสินเชื่อใหม่
อย่างไรก็ตาม ต้นทุนทางการเงินปรับตัวสูงขึ้น เป็นไปตามทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการนำส่งเงินกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ที่กลับสู่อัตราเดิมที่ 0.46% ต่อปี จากที่เคยปรับลดลงเหลือ 0.23% ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามการเติบโตของสินเชื่อ แต่ถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี พร้อมด้วยเงินสำรองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) สูงถึง 248% ซึ่งเพียงพอต่อการรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ในระดับแข็งแกร่งถึง 23.5% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 19.8% และ 3.8% ตามลำดับ นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังมีมติจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 7.75 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,205 บาท ในเดือน พ.ค.นี้. – สำนักข่าวไทย