ไทยเครดิต โชว์กำไรสุทธิปี 67 ทำนิวไฮ 3.6 พันล้านบาท

กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – ธนาคารไทยเครดิตประกาศผลกำไรสุทธิในไตรมาส 4 ปี 2567 ที่ 1,192.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 61.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ผลกำไรสุทธิของธนาคารตลอดปี 2567 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,624.0 ล้านบาท ยืนยันความเชื่อมั่นในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
 
ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567 ด้วยกำไรสุทธิที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,192.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 61.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งแม้เผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ ขณะที่ในไตรมาส 4 ธนาคารมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.97 บาท และในงวดปี 2567 ทั้งปี กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 2.95บาท โดยธนาคารยังคงดำเนินกลยุทธ์ที่เน้นความรอบคอบและระมัดระวัง เพื่อรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจได้อย่างมั่นคง
 
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของกำไรในครั้งนี้คือการขยายตัวของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง และการบริหารความเสี่ยงที่เข้มแข็ง โดยยอดเงินให้สินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 163,158.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ธนาคารยังมีการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิในสัดส่วนร้อยละ 10.5 อันเป็นผลจากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ ขณะเดียวกัน ธนาคารยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรักษาอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ให้อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 39.9 ในปี 2567 ส่วนอัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin) ในปีเดียวกันยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 8.6
 
จากผลการดำเนินงานในกลุ่มสินเชื่อ พบว่าธนาคารสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อในทุกกลุ่มหลักได้ เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (MSME) มีอัตราการเติบโตร้อยละ 12.8 สินเชื่อที่ใช้บ้านเป็นหลักประกันขยายตัวร้อยละ 14.4 และสินเชื่อบุคคลมีอัตราเติบโตโดดเด่นที่ร้อยละ 114.8 ทั้งนี้ ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่ออย่างรอบคอบและการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ ควบคู่ไปกับการดำเนินงานที่ยืดหยุ่นและการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
 
ส่วนของการบริหารจัดการความเสี่ยง ธนาคารยังคงรักษาระดับสินเชื่อด้อยคุณภาพ (%NPL) ไว้ที่ร้อยละ 4.4 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ตามการคาดการณ์ของธนาคาร ขณะที่อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อเฉลี่ย (%Credit cost) ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน จากร้อยละ 2.94 เป็นร้อยละ 2.65 เนื่องจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยหลักจากสินเชื่อด้อยคุณภาพที่เกิดขึ้นใหม่ลดลง จากการบริหารจัดการหนี้ที่ฟื้นตัวดีขึ้น
 
นายรอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือCREDIT เปิดเผยว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนและความท้าทายที่เกิดขึ้น ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า และเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงสร้างผลงานทางการเงินที่ดีที่สุดให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ธนาคารได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งด้วยรูปแบบธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับปรุงดำเนินงานให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่ท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็เตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสใหม่ๆ เพื่อวางรากฐานการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
 
สำหรับปี 2568 ธนาคารยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระดับเลขสองหลัก โดยคาดว่าอัตราส่วนต่างรายได้อัตราดอกเบี้ยสุทธิ (%NIM) จะอยู่ในช่วงร้อยละ 8.5-9.0 พร้อมรักษาอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า และควบคุมอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (%NPLs) ให้น้อยกว่าร้อยละ4.5
 
กลยุทธ์สำคัญที่ธนาคารใช้ขับเคลื่อนเป้าหมายดังกล่าวประกอบด้วย 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) การขยายสินเชื่อในส่วนที่เป็นผลิตภัณฑ์หลัก 2) การปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และ 3) การพัฒนาธุรกิจใหม่ ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานระยะยาวของธนาคาร เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
 
โดยในปี 2567 ได้รับการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยในระดับดีเลิศ หรือ 5 ดาว จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ยังได้รับการจัดอันดับและมอบรางวัลเกียรติยศจากหน่วยงานราชการและองค์กรต่างๆ ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานและแนวปฏิบัติที่ยอดเยี่ยมของธนาคาร
 
ที่ผ่านมา ธนาคารให้ความสำคัญกับการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้ปรัชญา “Everyone Matters ทุกคนคือคนสำคัญ” โดยมุ่งเน้นสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติงานและการให้บริการที่ครอบคลุม ควบคู่กับการให้ความรู้ทางการเงินแก่ชุมชน (Financial Literacy) อย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างความมุ่งมั่นในการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและการให้บริการแก่กลุ่มเปราะบาง
 
ธนาคารไทยเครดิตให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าและตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเน้นการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการให้บริการ โดยมุ่งหวังให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ด้วยเป้าหมายในการส่งเสริมให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีและมั่นคงในระยะยาว ธนาคารยังคงเดินหน้ายกระดับการให้บริการทางการเงินอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบในทุกมิติ.-516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 พักค้างให้กำลังใจทหารประจำฐาน ขอให้เชื่อมั่นเราทำถูกแล้ว

สุรินทร์ 1 มิ.ย.- เคียงบ่าเคียงไหล่! “มทภ.2” พักค้างให้กำลังใจทหารประจำฐาน ‘ปราสาทตาเมือนธม’ ย้ำอย่าได้ประมาทในการทำหน้าที่ ขอให้เชื่อมั่นเราทำถูกแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ (31 มิ.ย.) ที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ กำลังพลกองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำฐานปฏิบัติการพร้อมมอบข้าวสาร อาหารแห้ง และให้โอวาทแก่กำลังพล โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) ร่วมภารกิจ และพักค้างคืนที่ฐานปราสาทตาเมืองธม แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารทุกนายว่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดียิ่ง ยืนยันว่าพวกเราทำถูกต้องแล้ว พร้อมทั้งขอให้ทหารทุกนายตระหนักเสมอว่าระดับผู้บัญชาการทุกระดับ คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ อย่าได้ประมาท พร้อมจะเกิดอะไรได้ทุกเวลา ขอให้ติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา.-313.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เผยคุยผู้นำกัมพูชาตลอด ย้ำไทยยึดหลักไม่เผชิญหน้า

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” เผยคุยผู้นำกัมพูชาตลอด ย้ำไทยยึดหลักการไม่เผชิญหน้า แก้ปัญหาช่องบก ใช้กลไก JBC หาทางออกสันติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างร่วมประชุม IISS Shangri-La Dialogue ซึ่งเป็นเวทีหารือด้านความมั่นคงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ถึงสถานการณ์พื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่าสถานการณ์ขณะนี้คลี่คลายลง ทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่นในการที่จะไม่ก่อให้เกิดการเผชิญหน้า และรอให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ได้หารือกัน ซึ่งขณะนี้ได้นัดหมายกันแล้ว เข้าใจว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเกิดการประชุมได้ ทางฝ่ายไทยได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็จะไปร่วมพูดคุยทั้งหมดด้วย โดยได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพบก และกองทัพไทย อย่างต่อเนื่อง “คงยังไม่น่าเป็นห่วงอะไร แต่ก็ขอให้มีการพูดคุยกันก่อน ซึ่งไทยยึดหลักการจะไม่เผชิญหน้า และพยายามจะหาข้อสรุปอย่างสันติ และเป็นประเทศเพื่อนบ้านซึ่งกันและกัน” นายภูมธรรม กล่าว เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยกับกัมพูชาในระดับรัฐมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง และโอกาสการพบกันก็มีอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งเรามีวงประชุมหลายๆ เรื่อง ที่เป็นเรื่องของการรักษาความสงบ รักษาสันติภาพในในบริเวณนี้อยู่แล้ว.-313.-สำนักข่าวไทย

ฝนตกหนักบางแห่ง ภาคเหนือ-อีสานตอนบน

กทม. 1 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และอีสานตอนบน ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส […]

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย