เพชรบุรี 2 มิ.ย.-เอสเอ็มอีภาคเกษตร สปาเกลือกังหันทอง นำเกลือสมุทรและโคลนนาเกลือมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เกาะเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน จากคลองโคลน-หาดเจ้าสำราญ เพื่อสร้างชื่อให้นาเกลือบ้านแหลม
เกลือสมุทรนอกจากใช้ถนอมอาหารและอุตสาหกรรมทั่วไปแล้ว เอสเอ็มอีภาคเกษตร สปาเกลือกังหันทอง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ได้สร้างมูลค่าเพิ่มจากราคาเพียง 12 บาท เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 250 บาท จากคุณประโยชน์ของดอกเกลือ เดิมชาวบ้านมักเก็บดอกเกลือจากด้านบนสุดของผิวนาเกลือ ขูดเอาไว้เป็นของฝากและใช้ในครัวเรือน เพราะดีกรีความเค็ม 20% ไม่มากเท่ากับเกลือชั้นล่าง ด้วยสรรพคุณใช้ปรุงอาหารให้รสชาติกลมกล่อม ใช้แช่น้ำบ้วนปาก ล้างหน้า ฆ่าเชื้อ สร้างความอ่อนนุ่มให้ผิวหนัง สปาเกลือกังหันทองจึงนำดอกเกลือมาสร้างผลิตภัณฑ์อันหลากหลาย ทั้งเกลือขัดผิวผสมสมุนไพรหลากหลายกลิ่น โลชั่นบำรุงผิวจันทร์กระพ้อ สบู่โคลนอุดมไปด้วยแร่ธาตุ 83 ชนิด ขุดจากก้นบ่อนาเกลือมาใช้พอกหน้า จึงเป็นที่สนใจของผู้ต้องการหน้าเด้ง
นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา จากถนนพระราม 2 ช่วงคลองโคลน ลัดเลาะถนนทางหลวงชนบทตามชายทะเล ผ่านคลองโคลน อ.บ้านแหลม ตรงไปยังหาดเจ้าสำราญ ชะอำ กลายเป็นเส้นทางกลุ่มแรลลี่ นักปั่นจักรยาน บิ๊กไบค์ เพื่อชมความงามทางธรรมชาตินาเกลือ จึงแวะมานวดคลายปวดเมื่อยด้วยสปาเกลือ และพอกหน้าด้วยโคลนนาเกลือ สปาเกลือกังหันทองจึงขอสินเชื่อเอสเอ็มอีเกษตร จาก ธ.ก.ส. 2 ล้านบาท มาใช้ปรับปรุงสถานที่ เป็นทุนหมุนเวียนจัดหาวัตถุดิบและทำตลาด จัดบูธออกร้านตามงานโอท็อป งานทะเลโคลน และออกงานของหน่วยงานรัฐ เพื่อสร้างตลาดจากคนรักความงาม
สปาเกลือกังหันทองจึงเริ่มทำตลาดทั้งผ่านออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางตลาดของคนรุ่นใหม่ เพื่อขายภูมิปัญหาให้คนรู้จัก ขณะที่ ธ.ก.ส.เพชรบุรี ได้ปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีภาคเกษตรกว่า 600 ราย ยอดสินเชื่อ 865 ล้านบาทในปีนี้สูงกว่าเป้าหมายถึง 6 เท่า จึงมุ่งสร้างหัวขบวนในชุมชน เพื่อส่งเสริมชาวบ้านพัฒนาสินค้าด้วยนวัตกรรมภูมิปัญหาให้เพิ่มมากขึ้นตามนโยบายรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย